หุ้น IPO จำนวน 450 ล้านหุ้น จะแบ่งขายให้กับ บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) จำนวน 22.8 ล้านหุ้น เพื่อการรักษาสัดส่วนหุ้นใน TSE ที่ 20% หลังจากการเพิ่มทุน จากปัจจุบันที่ WAVE ถือหุ้น TSE อยู่ที่ 25% ส่วนหุ้นที่เหลืออีกราว 428 ล้านหุ้นจะจัดสรรให้กับนักลงทุนในแต่ละกลุ่มอีกครั้ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม
ด้านนายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน TSE กล่าวว่า ในปี 58 บริษัทคาดว่าจะมีการล้างขาดทุนสะสมในงบเดี่ยวที่มีอยู่ราว 234 ล้านบาท โดยจะนำกำไรจากงบรวมไปดำเนินการ ซึ่งผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 57 ในงบรวมมีกำไรสุทธิราว 648 ล้านบาท และมีกำไรสะสม 473 ล้านบาท หลังจากนั้นบริษัทอาจจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดปี 58 ให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิในงบเดี่ยว
นางแคทลีน กล่าวว่า บริษัทไม่กังวลว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคปจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น TSE เมื่อเข้าเทรด เนื่องจากบริษัทมีพื้นฐานที่ดี โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ(COD)จำนวน 99 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 87 เมกกาวัตต์ ทำให้ในปี 58 จะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเต็มปี นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนโครงการไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนในปีหน้า ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างมากในอนาคต
“ในเรื่องที่ TSE เข้าตลาดด้วยเกณฑ์มาร์เก๊ตแคป ซึ่งที่ผ่านมาหุ้นอสังหาฯบางตัวเข้าเทรดแล้วราคาต่ำกว่า IPO แต่ TSE เราไม่มีความกังวลนั้น เพราะธุรกิจเรามีพื้นฐานที่ดี โครงการ Solar ก็ประสบความสำเร็จและก็มี Performance ที่ดีเข้ามาเรื่อยๆ รายได้ก็เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการขายไฟเข้าระบบที่สิ้นปีนี้เราก็จะขายทั้งหมด 99 MW และเราก็มีศึกษาโครงการ Solar ในต่างประเทศ อย่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ คาดว่าจะสรุปปีหน้า และเราเชื่อว่าราคา IPO ที่จะออกมาก็จะมีความเหมาะสมกับพื้นฐานของธุรกิจเรา"นายธีร์ กล่าว