อย่างไรก็ตาม ให้น้ำหนักทางลงในสัปดาห์หน้าเพราะยังไม่เห็นปัจจัยอะไรที่จะเข้ามาหนุน จับตารายงานการประชุม เฟด และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งมีการคาดการณ์ถึงโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก BOE น่าจะกลับมาเป็น แรงกดดันต่อทิศทางตลาดหุ้นได้ ทั้งในส่วนของรายงานการประชุมที่คาดการณ์เรื่องสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ปัจจัยในประเทศไม่มีอะไร ตอบรับประเด็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อนข้างมาก สัปดาห์หน้าอาจเริ่มมีแรงเก็ง กำไรผลประกอบการไตรมาส 3 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะเข้ามาช่วยประคองการปรับตัวลงอยู่บ้าง แต่หลักๆ อยู่ในช่วงปรับฐาน
"การรีบาวน์ค่อนข้างจำกัดเพราะถ้ามองมูลค่าตลาดในเชิง PE โดย forword PE ตลาดหุ้นไทยที่ 15 เท่า ค่อนข้าง แพงเมื่อเทียบตลาดภูมิภาค และการอ่อนค่าเงินบาททำให้ยังขาดปัจจัยที่จะเป็นแรงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติให้ไหลเข้ามา ในตลาดบ้านเรา ขณะที่แรงขายนักลงทุนต่างชาติสัปดาห์นี้เห็นค่อนข้างชัดเจนขายออกทั้งในตลาดหุ้นและ SET50 Index Futures ก็ยังมีโอกาสเห็นการขายออกมาได้เหมือนกัน"น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าว
กลยุทธ์ ถ้ารีบาวน์กลับขึ้นน่าจะเก็งกำไรในฝั่ง short ให้แนวรับ 1,040 และ 1,035 จุด แนวต้าน 1,052- 1,057 จุด
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,047.12 จุด ลดลง 0.66 จุด, -0.06%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 253,825 1,353,523 Total Futures 253,341 1,349,639 SET50 Index 90,520 202,075 Sector Index - - Single Stock 152,465 1,120,809 Precious Metal 4,641 23,226 -GF10 4,058 18,443 -GF50 583 4,783 -Silver - - Curency 5,619 3,059 Energy 96 470 Interest Rate - - Total Options 484 3,884 Call 268 1,801 Put 216 2,083 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +77,271 -5,437 -71,834 Options +38 +7 -45