นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ MFC กล่าวว่า กองทุนเปิด MKAI 6S1 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง ที่สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศได้ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrate bond) โดยลงทุนได้อย่างน้อย 6 เดือน ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 500,000 บาท
กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่จะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คาดโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.75 ต่อปี โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศ และตราสารหนี้เอกชน
ตัวอย่างตราสารที่คาดว่ากองทุนจะลงทุนดังนี้ ตราสารต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากประจำของธนาคาร PT Bank Internasional Indonesia ร้อยละ 13 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.42 ต่อปี เงินฝากประจำของธนาคาร PT Bank Rakyat Indonesia (Pereso) Tbk ร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.77 ต่อปี เงินฝากประจำของ China Construction Bank (CCB) ร้อยละ 7 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.20 ต่อปี และตราสารหนี้ระยะสั้นของตุรกี Isbank ร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.66 ต่อปี
ส่วนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ หุ้นกู้ระยะสั้นของบมจ.ช. การช่าง(CK) ร้อยละ 18.18 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.53 ต่อปี หุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารเกียรตินาคิน ร้อยละ 13.82 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.32 ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม ประมาณการผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนร้อยละ 2.90 ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนร้อยละ 0.15 และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.75 ต่อปี หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป บริษัทจัดการอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว