ผลิตภัณฑ์ใหม่ มาลี ไลท์ (Malee light) 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ น้ำส้มแมนดารินผสมเนื้อส้ม น้ำองุ่นแดงและน้ำทับทิมผสมน้ำผลไม่รวม ซึ่งได้วางงบลงทุนด้านการตลาดไว้ 50 ล้านบาทในการออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เพื่อสร้างการรับรู้ในจุดขายของสินค้า และสร้างความจดจำในแบรนด์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดต่างๆอย่างครบวงจร
"เราเจอสภาพตลาดน้ำผลไม่สะดุด สภาพอากาศต่างๆ การเมือง เศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราการเติบโตของตลาดน้ำผลไม้เติบโตเพียง 1% เราจึงมีการชะลอการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการทำตลาดที่ก็ต้องชะลอตาม ซึ่งก็มองว่าไตรมาส 3-4 นี้ อารมณ์การจับจ่ายใช้สอยมีค่อนข้างมาก เศรษฐกิจเริ่มดี เราจึงทุ่มงบลงุทนจำนวนมากราว 50 ล้านบาท ก็มีการทำหนังโฆษราออกมา และเป็นปีแรกที่เราให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์มากขึ้น เพื่อเข้ามาช่วยสร้างกระแสในโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม เรายังเน้นน้ำผลไม้ที่ส่งเสริมสุขภาพเป็นหลัก และต่อจากนี้ก็จะมีเรื่องของไลฟ์ไสต์กับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้เกิดความสะดวกซื้อของคนเมือง"นางสาวรุ่งฉัตร กล่าว
นางสาวรุ่งฉัตร กล่าวอีกว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 5,205.16 ล้านบาท แต่เชื่อว่ากำไรจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 282.80 ล้านบาท เนื่องจากมีการบริหารงานภายในองค์กรดีขึ้น ส่วนรายได้ที่ไม่เติบโตเป็นเพราะบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยอย่างมาก โดยตลาดน้ำผลไม้ในเมืองไทยตอนนี้มีมูลค่าราว 12,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพียง 1% บริษัทจึงชะลอการลงทุนด้านการตลาดและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรอจังหวะเหมาะสม ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเริ่มกลับมา บริษัทฯจึงมีการลงทุนด้านการตลาดอีกครั้งเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่เหลือของปี
"เราคาดว่ารายได้น่าจะใกล้เคียงปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบหลายอย่าง ส่วนกำไรน่าจะดีกว่าปีก่อนได้ ซึ่งเรามีการบริหารงานภายในองค์กรได้ดีมากขึ้น เพื่อการเติบโตแบบยั่งยืน ประกอบกับเราก็มีการลงทุนด้านการขยายกำลังการผลิตไปแล้ว โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 300 ล้านลิตรต่อปี คาดว่าน่าจะรองรับการผลิตได้ไปอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ปี 58 ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นได้ซึ่งเราคาดว่าการเติบโตเฉพาะน้ำผลไม้ของ Malee เองน่าจะเติบโตได้มากกว่า 10% ส่วนการรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์อื่นก็ขึ้นอยู่กับลูกค้า โดยเราก็วางงบการตลาดโดยรวมปีหน้าไว้ราว 5-6% ของยอดขายรวม"นางสาวรุ่งฉัตร กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจไปในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศให้ขึ้นมาเท่าเทียมกับยอดขายภายในประเทศ จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 15% และในประเทศอยู่ที่ 85% โดยขณะนี้ก็เริ่มเข้าไปศึกษาการขยายตลาดกว่า 10 ประเทศ ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และทั้งเวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงจีน ปัจจุบัน บริษัทฯมีการส่งออกน้ำผลไม้ไปมากถึง 40 ประเทศทั่วโลก