ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 55-56 บริษัทได้นำระบบตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้กับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของบริษัท(ธุรกิจของเล่นสุนัข)ซึ่งได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก คุณภาพของสินค้าสะอาด ปราศจากการปนเปื้อน ยกระดับคุณภาพของสินค้า ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า และช่วยอนุรักษ์พลังงาน ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงสนใจศึกษาระบบโซลาร์รูฟเพื่อผลักดันการใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายวีระพล กล่าวต่อว่า ภายหลังรศึกษาโครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทหรือองค์กรจะไม่เป็นเพียงผู้ใช้ไฟฟ้า แต่จะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าด้วย ซึ่งจะประหยัดต้นทุนในด้านพลังงาน และใช้งานได้ยาวนานแน่นอน และหากมีกำลังการผลิตที่เหลือจากใช้ก็สามารถขายเป็นรายได้ให้กับบริษัท โดยปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานทั้งผลิตหนัง 3 แห่ง และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ น่าจะมีพื้นที่หลังคารวมกันหลายหมื่นตารางเมตร สามารถผลิตไฟฟ้ากำลังการผลิตประมาณ 5-6 เมกะวัตต์
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 57 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 938 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 413.27 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในปีถัดไป ยอดขายจะเติบโตมากกว่า 25% ต่อปี เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายเดิม ขณะที่จะเน้นเพิ่มลูกค้าในต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการผลิตสินค้าให้กับผู้ประกอบการกลุ่มยานยนต์ประมาณ 60% และเป็นส่งออกโปรดักส์เกี่ยวกับเครื่องหนังอีกราว 40%