"นักลงทุนมีความมั่นใจในความเป็นผู้นำทางธุรกิจของตู้เติมเงินบุญเติมที่ FSMART ดำเนินการมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาขายหุ้นไอพีโอเป็นราคามีส่วนลด 49% ซึ่งมีค่า P/E อยู่ที่ 16.67 เท่า เปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่มี P/E อยู่ที่ 33 เท่า นับจากวันที่ 1 ก.ค.56 ถึง 30 มิ.ย.57 ถือเป็นราคาที่เหมาะสม มั่นใจว่าการเข้าซื้อขายวันแรกของ FSMART จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเดียวกัน"นายสมภพ กล่าว
FSMART มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย(Co Underwriter)อีก 6 ราย ได้แก่ บล.เอเซียพลัส, บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย), บล.เคที ซีมิโก้, บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด และ บล. โกลเบล็ก
นายพงษ์ชัย อมตานนท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร FSMART กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 500 ล้านบาท ไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมในปีนี้ให้ครบ 40,000 ตู้ในปี 57 และเพิ่มการลงทุนขยายตู้เติมเงินในปี 58 รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ในอนาคตทางบริษัทฯจะพัฒนาให้ตู้เติมเงินบุญเติมสามารถตอบโจทย์ต่างๆมากกว่าการเป็นตู้เติมเงินที่มีบริการกว่า 45 รายการ โดยการที่ FSMART เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยเป็นอีกแรงสนับสนุนที่ดีในการเจรจาธุรกิจกับพันธมิตรที่จะเปิดโอกาสการต่อยอดทางธุรกิจอีกมากที่จะส่งผลให้บริษัทฯมีทิศทางการเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง"นายพงษ์ชัย กล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า FSMART มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่ดีทั้งเรื่องของพันธมิตรทางธุรกิจ และตัวแทนบริการที่มีอยู่ทั่วประเทศ ด้วยจุดแข็งเรื่องระบบแฟรนไชส์ที่สามารถขยายตู้เติมเงินให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งเสริมให้มียอดเติมเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้สามารถก้าวมาเป็นผู้นำตลาดตู้เติมเงินได้ในระยะเวลาไม่นาน เป็นแรงจูงใจที่ดีให้นักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้น FSMART เป็นจำนวนมาก