อย่างไรก็ดี ตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งที่ผ่านมาไม่มีสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็ยังกังวล ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะต้องติดตามการประชุมเฟดครั้งต่อไปในปลายเดือน ต.ค.นี้อีกครั้ง
ด้านบริษัท วายแอลจี บุลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อ เมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,218-1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมี ลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway Up โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและ นักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,232-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,041.70 จุด เพิ่มขึ้น 12.51 จุด, +1.22%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 161,653 1,198,986 Total Futures 161,290 1,193,797 SET50 Index 90,391 223,297 Sector Index - - Single Stock 57,851 938,794 Precious Metal 7,570 23,541 -GF10 6,640 18,849 -GF50 930 4,692 -Silver - - Curency 5,420 7,696 Energy 58 469 Interest Rate - - Total Options 363 5,189 Call 221 2,555 Put 142 2,634 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +2,045 +6,202 -8,486 Options -34 +29 +5