สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 82,910 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 46,425 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 56.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 30,437 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 36.7% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,672 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB236A (รุ่นอายุ 4.7 ปี, 2.7 ปี และ 8.7 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 21,289 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BECL172A) มูลค่า 203.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL14OA) มูลค่า 201.4 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL14DA) มูลค่า 194.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 598.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,959 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 340 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,776 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.83% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.05%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 2-5 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury ล่าสุดรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจต่างประเทศที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ ด้านตลาดยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 2,776 ล้านบาท