เนื่องจากขณะนี้บริษัทเอสเอ็มอีผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆจากญี่ปุ่น อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนที่เป็นส่วนประกอบที่แปรรูปมาจากเหล็ก มีความสนใจที่จะหาพันธมิตรผู้ผลิตในไทยเป็นฐานการส่งออกไปในประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่นและในเอเชียน เนื่องจากที่ผ่านมาเอสเอ็มอี ที่ผลิตชิ้นส่วนในประเทศญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างมากจากต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นและการขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก จึงได้มองหาประเทศที่มีศักยภาพที่จะรองรับเพื่อเป็นฐานการผลิตให้กับเอสเอ็มอีญี่ปุ่น และประเมินว่าประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมเนื่องจากมีแรงงานที่มีทักษะจำนวนมากรองรับและมีบริษัทต่างๆที่มีความพร้อมในการผลิตตามออเดอร์ ตามมาตรฐานและระยะเวลาที่กำหนดแบบมาตรฐานญี่ปุ่น
“หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงานและมีต้นทุนทางด้านแรงงานที่สูงขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเร่งเห็นและไม่ต้องการให้ เอสเอ็มอีญี่ปุ่น ประสบปัญหาจึงได้หาทางออกหาพันธมิตร จากต่างประเทศที่จะเป็นฐานการผลิตเอสเอ็มอีของญี่ปุ่นแห่งใหม่ และรัฐบาลก็ได้เลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งแห่งในการที่จะให้เอสเอ็มอีในญี่ปุ่นมาผลิตในประเทศไทยแทน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจึงได้มีการติดต่อจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้บริษัทต่างๆในประเทศไทยเข้าไปนำเสนอผลงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทก็ได้รับการคัดเลือกให้ไปนำเสนอผลงาน จนมีหลายบริษัทติดต่อเข้ามาที่บริษัทและในขณะนี้ความร่วมมือและการหารือกับหลายบริษัทของญี่ปุ่นก็มีความคืบหน้าที่จะร่วมมือในการผลิตชิ้นส่วนให้เกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้นี้"นายธีรวัต กล่าว
นายธีรวัต กล่าวว่า ทางบริษัทถือว่ามีความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนที่แปรรูปจากเหล็ก เนื่องจากเรามีประสบการณ์การทำงานในด้านดังกล่าวมา 10 กว่าปี เราให้ความสำคัญเรื่องบุคลากรในการเทรนนิ่งอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสำคัญเรื่องการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบและเทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัย รวมทั้งการให้ความสำคัญเรื่องงานการผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพ นอกจากนั้นยังต้องผลิตให้ทันตามกำหนดเวลาที่ลูกค้าต้องการ ประกอบกับทางบริษัทก็มีลูกค้าที่เป็นญี่ปุ่นจึงทำให้บริษัทมีความเข้าใจ การติดต่อประสานงานรวมทั้งการบริการภายใต้วัฒนธรรมนักธุรกิจญี่ปุ่นเป็นอย่างดี