ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่า สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างชะลอตัวลงมากจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงตามไปด้วย แม้ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและผู้ประกอบการได้จัดทำรายการส่งเสริมการขายแล้วก็ตาม แต่กลับพบว่าความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างกลับไม่เพิ่มขึ้นมากนัก
โดยตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 3 ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากย่างเข้าสู่ฤดูฝนที่ทำให้งานก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยต้องชะลอตัวออกไป ทำให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายหรือห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ลดสต๊อกสินค้าลง จึงเป็นปัจจัยทีมีผลต่อตลาดหดตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวเพื่อประคองยอดขาย
ทั้งนี้ DRT ได้พยายามปรับแผนเน้นผลักดันยอดขายจากช่องทางขายตลาดส่งออกและตลาดลูกค้าโครงการ ที่ถือเป็นตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยคาดว่าตลาดส่งออกจะทำสัดส่วนยอดขายเพิ่มเป็น 14-15% จากเดิมที่มี 10% และตลาดโครงการขยับเพิ่มเป็น 13-14% จากเดิมที่มีสัดส่วน 8-9% เพื่อพยุงยอดขายไม่ไห้ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อภายในประเทศที่ชะลอตัวลงมากนัก
"ปีนี้ถือเป็นปีที่ยากลำบากของผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างที่ต่างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอลงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคงต้องใช้เวลาเพื่อรอจังหวะฟื้นตัวได้ เราจึงประคองยอดขายไม่ให้ลดต่ำลงและควบคุมต้นทุนด้านการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรอจังหวะเก็บเกี่ยวยอดขายจากโอกาสการฟื้นตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็งได้ในปี 2558"นายสาธิต กล่าว