ซีไอเอ็มบีฯ เปิดกองตราสารหนี้ยูโรไฮยิลด์ คาดผลตอบแทน 6-8%ขาย 13-24ต.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 13, 2014 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า บลจ.ออกกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ยูโร ไฮ ยิลด์ (CIMB-Principal EUHY) เน้นลงทุนตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงบริษัทเอกชนชั้นนำในภูมิภาคยุโรป มอง ECB คงดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องและนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลบวกการลงทุนในตราสารหนี้ภูมิภาคยุโรป มองจังหวะการเพิ่มตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในพอร์ตการลงทุนของลูกค้า คาดให้ผลตอบแทนประมาณ 6-8% ต่อปี โดยเปิดขายให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคมนี้ กำหนดวงเงินทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท มูลค่าขั้นต่ำของการสั่งซื้อครั้งแรก 510,000 บาท และครั้งถัดไป 5,000 บาท

ทั้งนี้ มองว่าตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แนะนำให้เพิ่มการลงทุนในพอร์ตการลงทุนของลูกค้า โดยเฉพาะตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในภูมิภาคยุโรปมีความน่าสนใจและเหมาะสมกับการลงทุนในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านับจากนี้ ด้วยเหตุผลสนับสนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจที่คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำที่ระดับ 0.05% และดอกเบี้ยฝากเงินกับ ECB ที่ -0.2% รวมถึงการดำเนินนโยบายมาตรการเงินเชิงผ่อนคลาย (QE) เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคยุโรปให้ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (Covered Bond) จากธนาคารพาณิชย์ และซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ABS:Asset-Backed Securities) โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาการดำเนินการอย่างน้อย 2 ปีนับจากไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งนโยบายนี้ส่งผลบวกต่อตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาคยุโรป โดยมองเห็นโอกาสที่กองทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาตราสารหนี้ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่นโยบายยังคงอยู่ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสามารถที่กองทุนจะสร้างผลตอบแทน

หากมองภาพเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนโดยรวม ภายหลังจากที่ ECB ดำเนินมาตรการกระตุ้นเชิงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการเพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน โดยการกระตุ้นสินเชื่อและสนับสนุนการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจยูโรโซน เรามองว่าจะทำให้บริษัทต่างๆ จะมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้น ซึ่งทำให้ตราสารหนี้บริษัทเอกชนจะได้รับความสนใจในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งก็เป็นผลบวกต่อการลงทุนสำหรับกองทุนนี้เช่นกัน

กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในกองทุนหลัก USB Euro High Yield Bond Fund บริหารโดย UBS Global Asset Management บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำในยุโรปและเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารใหญ่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยถือเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นได้รับรางวัล Lipper Award 5 ปีติดต่อกัน (นับตั้งแต่ปี 2010-2014) และได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก MorningStar

สำหรับการลงทุนนั้น ผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นนำ โดยมีการกระจายการลงทุนในตราสารมากกว่า 200 บริษัทในหลายอุตสาหกรรมในยุโรปที่ให้ผลตอบแทนสูง และถือครองตราสารลงทุนกว่า 400 ตราสาร ดังนั้นน้ำหนักการลงทุนโดยเฉลี่ยต่อตราสารเพียง 0.23% และมีอายุเฉลี่ยของตราสารที่ลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยประมาณ 3.4 ปี ซึ่งเหมาะสมกับทิศทางเศรษฐกิจของยุโรปในปัจจุบัน ด้านการคัดเลือกตราสารหนี้ที่ลงทุน จะเน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทและเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร และให้ความสำคัญต่อการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมเป็นหลัก โดยคาดว่ามีโอกาสจะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ซื้อหน่วยลงทุนเฉลี่ยประมาณ 6-8% ต่อปี

ในด้านตราสารหนี้ที่กองทุนลงทุนอยู่นั้น โดยมากเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ Societe Generale SA ธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศฝรั่งเศส Deutsche Bank ธนาคารใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและครองสัดส่วนตลาดด้านการให้บริการ Foreign Exchange Dealer มากที่สุดในโลก Credit Suisse ธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับ2 รองจาก UBS ในสวิตเซอร์แลนด์ Credit Agricole SA ธนาคารชั้นนำที่มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของฝรั่งเศสและTelecom Italia SpA ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดในอิตาลี

การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงภูมิภาคยุโรป เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการแสวงหาผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงที่ไม่สูงมากนัก รวมทั้งผลงานการบริหารที่ดีอย่างต่อเนื่องของกองทุนหลักที่เราคัดเลือกมา ทำให้เราคาดว่ากองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ยูโร ไฮ ยิลด์ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุน และกองทุนนี้มีการปันผลตอบแทนผ่านการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งกองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ