นอกจากนั้น ยังมองโอกาสการลงทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศจีน รวมทั้งการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ญี่ปุ่น และจีน ส่วนโรงไฟฟ้าหงสาที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือน ก.พ.59 นั้น จะส่งผลให้สัดส่วนกำไรสุทธิของบริษัทจากการขายไฟฟ้าเพิ่มเป็น 35% และในปี 60 หลังจากที่รับรู้รายได้จากหงสาเต็มปีจะส่งผลให้สัดส่วนเพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบันมีสัดส่วนกำไรสุทธิจากการขายไฟฟ้าเพียง 25%
นายชนินท์ กล่าวว่า บริษัทยังมั่นใจรายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.08 แสนล้านบาท โดยคงเป้าหมายปริมาณขายถ่านหินที่ 48.80 ล้านตัน แม้ว่าทางการจีนจะมีนโยบายห้ามการนำเข้าถ่านหินมลพิษสูงและขึ้นภาษีนำเข้าถ่านหิน แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณขายของบริษัท
สำหรับราคาถ่านหินเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ราคาถ่านหินจะปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการเติบโตที่ลดลง แต่ทางบริษัทฯได้มีการขายล่วงหน้าไปมากแล้ว เหลือเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เหลือไว้จำหน่ายนอกเหนือจากสัญญาซื้อขาย
"บริษัทมั่นใจว่าปริมาณการขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และรายได้จะยังเป็นไปตามเป้าหมาย ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ราคาถ่านหินจะปรับตัวลดลงจากการที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตที่ลดลง แต่เรายังสามารถมีราคาขายถ่านหินเฉลี่ยทั้งปีที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เพราะเราทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไปเยอะแล้ว เหลือแค่เพียงบางส่วนเท่านั้นที่เหลือไว้ขาย ประกอบกับนโยบายทางการจีนไม่ได้เป็นผลกระทบ"นายชนินท์ กล่าว