HEMRAJ เผยยอดขายที่ดินงวด 9 เดือนได้ 522 ไร่สะท้อนภาพอุตฯยานยนต์อ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 14, 2014 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) เปิดเผยว่า ยอดขายที่ดิน 9 เดือนแรกปี 57 จำนวน 522 ไร่ (208 เอเคอร์ หรือ 84 เฮกตาร์) โดยมีจำนวนสัญญารวม 31 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 21 ราย และเป็นการขยายโครงการของลูกค้าที่มีอยู่เดิม 10 ราย จากจำนวนสัญญาทั้งหมดเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นร้อยละ 39 และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์กว่าร้อยละ 25

ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดกลุ่มยานยนต์ในประเทศโดยปริมาณการรับจ้างผลิต (OEM) ของกลุ่มยานยนต์ทั้งหมดลดลงร้อยละ 28 ตลอดในช่วงเดือน ส.ค.57 แต่การรับจ้างผลิต (OEM) ในส่วนของการส่งออกยานยนต์เติบโตขึ้นร้อยละ 3 อย่างไรก็ตามภาพรวมของมูลค่าชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 นอกจากนี้ยังมีการลงทุนของอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่หรือเทคโนโลยีด้านยานยนต์ในระยะยาว สะท้อนให้เห็นถึงแผนการลงทุนในเชิงบวกของอุตสาหกรรม โดย 5 ค่ายรถยนต์ที่มีโรงงานอยู่ภายในนิคมฯเหมราชได้ทำการยื่นขออนุมัติโครงการ Eco Car 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนโครงการที่รออนุมัติการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มีจำนวน 284 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัตินั้น ทำให้มีผลกระทบต่อระยะเวลาในการลงทุนปี 57

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมั่นใจในผลประกอบการเนื่องจากมีลูกค้าใหม่ 21 ราย และลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มยานยนต์จำนวน 23 สัญญา จาก 31 สัญญา จากข้อจำกัดดังกล่าวข้างต้น กอปรการปิดซ่อมบำรุงของโรงงานอุตสาหกรรมในไตรมาส 3 ส่งผลกระทบระยะสั้นต่อปริมาณการใช้น้ำดิบและน้ำเสียที่เติบโตเพียงร้อยละ 2 เช่นเดียวกับพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่าเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2 และพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14

“จากช่วงกลางปี 57 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะทางการเมืองที่มั่นคง มีความสงบสุขกลับคืนมา และการเริ่มฟื้นตัวจากการลงทุนของนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าในปี 2557 การเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยจะเติบโตร้อยละ 1 และจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 4.6 ในปี 2558"นายนาร์โดน กล่าว

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน โครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ (IPP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหมราชถือหุ้นร้อยละ 35 และบริษัทโกลว์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 65 (GDF Suez group) ได้ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 ซึ่งมากกว่าที่บริษัทฯคาดการณ์ไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา

"เรายังคงเชื่อมั่นในกลยุทธ์ทางธุรกิจของเหมราชที่มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และคาดการณ์ได้ ดังเช่นผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2557 ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการตั้งฐานการผลิต และการเติบโตทางธุรกิจ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ทั้งต้นทุน โครงสร้างพื้นฐานที่ดี และการขยายเข้าถึงตลาด" กรรมการผู้จัดการ HEMRAJ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ