ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นเยอรมันที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย ผลของการตรวจสอบคุณภาพสินทรัพย์ (AQR) ที่จะประกาศในวันที่ 26 ต.ค. นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในกลุ่มธนาคาร รวมไปถึงการออกมาตรการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับธนาคารพาณิชย์ (TLTRO) ในเดือน ธ.ค. ซึ่งน่าจะมีอัตราการปล่อยสินเชื่อดีขึ้น หลังจากผลของการทดสอบภาวะวิกฤติของธนาคาร (Stress Test) ออก โดยทั้งหมดน่าจะออกมาในเชิงบวก นอกจากนี้นักเคราะห์หลายสำนัก ยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประกาศการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) ภายใน 6 เดือนนับจากนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปให้กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมัน
"ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นเยอรมัน แม้ว่าจะถูกกดดันจากภาวะการชะลอตัวทางเศรฐกิจของยุโรปก็ตาม แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมันและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่จะกลับมาดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย ทำให้ในช่วงจังหวะที่ตลาดหุ้นเยอรมันมีการปรับฐานลงมาแรงนั้น ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทชั้นนำหลายแห่งมีการปรับลดลงมาจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าควรจะเป็น เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นจังหวะเหมาะสมที่จะเข้าลงทุนเพิ่ม โดย Valuation ของดัชนี DAX ที่เทรดที่ P/E15 เพียง 11 เท่า ซึ่งต่ำสุดในกลุ่มประเทศยุโรป และมีราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นหรือ P/B15 อยู่ที่ 1.4 เท่าซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับของญี่ปุ่น"นายคมศร กล่าว