"รายได้และกำไรของเราก็จะล้อตามกันไปกับพอร์ตสินเชื่อเราที่เติบโตขึ้น สินเชื่อที่เราปล่อยส่วนใหญ่ก็เป็นสัดส่วนราชการ 80% และเอกชน 20% ซึ่งก็เริ่มมีการขยายตัวของสินเชื่อมากขึ้น จากการลงทุนของภาครัฐที่จะเริ่มมีการลงทุนมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อบริษัทของเรา ซึ่งเราคาดว่ารายได้และกำไรของเราก็จะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 30%"นางรุ่งนภา กล่าว
ในปี 56 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 104 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ไว้ที่ 0.1-0.2% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งอุตสาหกรรม และมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในระดับ 2% ของพอร์ตสินเชื่อ สำหรับแผนย้ายหุ้น LIT จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)ภายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท แต่ทั้งนี้บริษัทจะต้องมีการพิจารณาผลประกอบการต้องเป็นไปตามเป้าหมายที่เหมาะสม และตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ หากบริษัทย้ายไปอยู่ใน SET บริษัทจะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกราว 100 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท