นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPA กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ 289 ล้านบาท โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนได้ใช้ขยายสาขาใหม่ราว 100 ล้านบาท ใช้ชำระหนี้ราว 100 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่บริษัทราว 80 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนการขยายสาขาใหม่ในปี 58 เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3 สาขา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนสาขาละ 20-25 ล้านบาท ทำให้ในสิ้นปีหน้าบริษัทจะมีสาขาเพิ่มเป็น 16-17 สาขาซึ่งบริษัทนโยบายขยายสาขาใหม่ปีละ 3 สาขา
ส่วนการนำเงินจากการเสนอขาย IPO ส่วนหนึ่งไปใช้ชำระหนี้จะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1 เท่า จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.4 เท่า
สำหรับรายได้ในปี 57 คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนหรือดีกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยในปี 56 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 326 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มของธุรกิจมีการฟื้นตัวดีขึ้นหลังการเมืองมีความสงบ ทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ บริษัทมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งในสิ้นปี 57 จะมีสาขารวมทั้งหมด 14 สาขา โดยในวันที่ 1 พ.ย. 57 จะมีการเปิดสาขาใหม่ซึ่งเป็นสาขาที่ 14 คือ Rarin Jinda Wellness Spa เพลินจิต
ทั้งนี้ ในงวดครึ่งแรกของปี 57 บริษัทมีรายได้ 143 ล้านบาท