ขณะที่ บริษัทฯเตรียมงบลงทุนในปี 58 ไว้ 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการพลังงานทดแทน ตามมติคณะกรรมการนโยบายทางพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่จะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิตรวม 800-900 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯคาดหวังได้รับงาน 100-200 เมกะวัตต์ และใช้ในโครงการร่วมทุนโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น มีกำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 10% ประกอบกับจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 100-200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 260 เมกะวัตต์ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 300 เมกะวัตต์
ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ โดยมองประเทศพม่าและเวียดนาม ซึ่งขณะนี้ในประเทศพม่า จะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุนในการดำเนินการก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มได้ในปีนี้ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 โดยมีกำลังการผลิตรวม 2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท
อีกทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการร่วมทุนโซลาร์ฟาร์ม กับทางประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตรวม 1.5 เมกะวัตต์ คาดได้ข้อสรุปปี 58 ส่วนโรงประกอบแผงโซลาร์ฟาร์ม ที่จ.นนทบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในไตรมาส 1/58 มูลค่าโครงการราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ บริษัทฯจะถือหุ้น 10% และน่าจะใช้งบลงทุนในส่วนของบริษัทฯไม่เกิน 30% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด
นอกจากนี้ เตรียมเข้าประมูลงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแผงโซลาร์ฟาร์ม ในช่วงเดือนมี.ค.58 ที่ประเทศเนปาล กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลประมูลในปีหน้าเช่นกัน
น.ส.วันดี กล่าวต่อว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการเข้าไปร่วมลงทุนในกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใน 5 ปี ให้มีกำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์อีกด้วย