สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 88,460 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 59,668 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 67.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 26,459 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 29.9% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 548 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA, LB236A และ LB15DA (รุ่นอายุ 7.2 ปี, 8.7 ปี และ 1.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 22,420 ล้านบาท หรือคิดเป็น 85% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (ICBCTL159A) มูลค่า 228.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL155A) มูลค่า 80.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC18OA) มูลค่า 75.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 384.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 18,975 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,937 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,835 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.05% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.69% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.04%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-4 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลก ล่าสุดตัวเลข GDP ไตรมาส 3/57 ของจีน ขยายตัวลดลงอยู่ที่ 7.3% จากระดับเป้าหมายของทางการจีนที่ 7.5% ในขณะที่รัฐบาลจีนส่งสัญญานว่าจะไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ออกมา ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 3,835 ล้านบาท