SCC ตั้งงบลงทุน 5 ปี (58-62) ราว 2-2.5 แสนลบ.ไม่รวมดีล M&A

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 22, 2014 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 58-62) วงเงินประมาณ 2 - 2.5 แสนล้านบาท โดยไม่รวมการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ทั้งนี้ การลงทุนในช่วง 5 ปีนี้จะเน้นการลงทุนโครงการใหม่ (Greenfield) มากกว่าการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งได้รวมโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนามที่จะสรุปแผนการลงทุนทั้งงบประมาณการลงทุนและจัดหาเงินทุนได้ภายในไตรมาส 1/58 จากเบื้องต้นคาดใช้เงิน 4.5 พันล้านเหรียญ

ส่วนการเข้าซื้อกิจการ ก็ยังเน้นในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งได้เจรจาเข้าซื้อบริษัทที่มีเทคโนโลยี ทั้งในยุโรป และสหรัฐ ซึ่งได้เจรจามาระยะหนึ่งแล้ว

นายกานต์ คาดว่า กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) น่าจะทำสถิติสูงสุดอีกครั้งจากปีก่อนได้ทำสถิติสูงสุดแล้ว เนื่องมาจากสัดส่วนของสินค้ามูลค่าเพิ่ม หรือ HVA ของบริษัทมีมากขึ้น และสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้น 28% ในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่สินค้า commodity มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18% ทั้งนี้ สัดส่วนสินค้า HVA มีสัดส่วน 34% ของยอดขาย ทีเหลือ 66% มาจากสินค้า Non HVA

"ปีนี้ EBITDA จะ break record อีกปี จากปีที่แล้ว EBITDA ทำนิวไฮ ...เราตั้งเป้ายอดขายจากสินค้า HVA สัดส่วน 50% ในปีนี้ก็ยังทำไม่ได้ เพราะเราเข้าซื้อกิจการในภูมิภาคอาเซียน ทำให้ฐานยอดขายขยายตัว อย่างไรก็ตาม HVA ในไทย ปีนี้มียอดขายแล้ว 1.6 หมื่นล้าบาท เทียบจากเมื่อปี 47 มีสัดส่วน HVA เพียง 4% จากยอดขายรวม 9 หมื่นกว่าล้านบาท" นายกานต์ กล่าว

ขณะเดียวกันธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้ เนื่องจากมีส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)สูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยสเปรดเม็ดพลาสติก HDPE กว่า 800 เหรียญ/ตัน และสเปรดเม็ดพลาสติกโพลิโพพิลีน (PP) ได้ 900 เหรียญ/ตัน ช่วยผลักดันผลประกอบการใน 2 ไตรมาสหลังนี้

สำหรับกรณีคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบลงทุน วงเงิน 6.8 หมื่นล้านบาทในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น นายกานต์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ sentiment ในตลาดเป็นบวก และได้รับคำยืนยันจากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างว่า รัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการดังกล่าว โดยในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมาความต้องการใช้ปูนซิเมนต์ชะลอตัว บริษัทหันเพิ่มการส่งออกแทน อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทได้เดินเครื่องเต็มกำลังอยู่แล้ว

อนึ่ง SCC มีกำลังการผลิตรวม 22.5-22.7 ล้านตัน/ปี

นายกานต์ กล่าวว่าค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้นมาเป็น 32.20 บาท/ดอลลาร์ จากก่อนหน้าอยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์ บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงค่าเงินบาท (hedging) อยู่แล้วในช่วง 50-70%ของรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่ขณะนี้มีมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญ โดยช่วงไหนค่าเงินบาทแข็งค่าจะทำประก้นความเสี่ยงมากขึ้น แต่ถ้าเงินบาทอ่อนค่าก็จะลดทำ hedging ลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ