นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF)ได้รับแรงกดดันจากราคาทูน่าที่มีความผันผวนส่งผลกระทบต่อยอดสั่งซื้อของธุรกิจทูน่า OEM ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่สามารถประเมินราคาทูน่าในตลาดที่มีความเหมาะสมในการสั่งซื้อได้ โดยในต้นไตรมาส 3/57 ราคาทูน่าปรับเพิ่มขึ้นมาสูงถึง 1,800 เหรียญต่อตัน และลดลงมาอยู่ที่ 1,280 เหรียญต่อตันในปลายไตรมาส โดยจะกระทบต่อส่วนต่างกำไรของธุรกิจทูน่า OEM ในไตรมาส 4/57 มากกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/57 ประเมินว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 81% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ซึ่งสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยรายได้เติบโตขึ้น 9% จากไตรมาส 2/57 และ 6% เมื่อเทียบกันช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากธุรกิจทูน่าแบรนด์ปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ต้นทุนต่ำลงและกำไรดีขึ้น ส่งให้กำไรโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นตาม
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/57 กำไรสุทธิของ TUF จะลดลงจากไตรมาส 3/57 เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้ผลผลิตลดลง และปริมาณการผลิตลดลงตามกัน รวมทั้งได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากธุรกิจทูน่า OEM เนื่องจากราคาทูน่าผันผวนมีผลกดดันส่วนต่างกำไรในธุรกิจดังกล่าว แต่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น TUF ด้วยราคาเป้าหมาย 81 บาท/หุ้น