พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งเป้าเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของผู้ผลิตลวดเหล็กแรงดึงสูง จากการซื้อเครื่องจักรเพิ่ม ซึ่งสามารถดำเนินการผลิตได้กลางปี 58 โดยการเพิ่มกำลังการผลิตในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีก 80% ทำให้ผลิตสินค้าลวดเหล็กได้มากขึ้น ถือว่าสอดคล้องกับการลงทุนในโครงการต่างๆ จากภาครัฐ อีกทั้งส่งผลทำให้ ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลง กำไรต่อหน่วยเพิ่มมากขึ้น สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ สำหรับเครื่องจักรใหม่บริษัทได้สั่งซื้อมาจากยุโรป ซึ่งจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในกลางปี 58 และจะเป็นเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูงเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมลวดเหล็กฯ ทั่วโลก ทำให้ RWI มั่นใจว่าสินค้าที่ผลิตออกมาจะมีคุณภาพได้มาตรฐาน สามารถผลิตได้จำนวนมากขึ้น
บริษัทยังวางแผนปรับปรุงเครื่องจักรเดิมที่ใช้งานมานาน ให้มีประสิทธิภาพและสามารถผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลง กำไรต่อหน่วยเพิ่มมากขึ้น สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ และรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทั่วประเทศ หรือผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่รับงานโครงการต่าง ๆ จากภาครัฐที่จะออกมา รวมถึงสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
อีกทั้ง บริษัทยังคงเน้นเรื่องคุณภาพสินค้าก่อนถึงมือผู้ใช้ โดยมีการปรับปรุงห้องปฎิบัติการทดสอบและสอบเทียบ (General Requirements for the Competence of Testing and Calibration Laboratories) ให้ได้รับการรับรองตาม มอก. 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานห้องปฎิบัติการทดสอบและสอบเทียบ ที่เป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินค้าของทางบริษัทฯจะมีการทดสอบ 100% เพื่อให้สินค้าที่ออกจากทางบริษัทมีคุณภาพและมีมาตรฐานที่แน่นอน ส่งผลให้การจำหน่ายสินค้าของ RWI สามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ จากเดิมที่จำหน่ายเพียงในประเทศ
"ก้าวต่อไปของ RWI คือ การดำเนินธุรกิจให้มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สินค้ามีคุณภาพตามมาตรฐานและเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในอนาคต จากการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของบริษัท"นายเชนินทร์ กล่าว