ส่วนหุ้น INTUCH อยู่ที่ 73.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท(+0.34%)มูลค่าซื้อขาย 276.10 ล้านบาท
ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,547.56 จุด ลดลง 0.33 จุด(-0.02%)เมื่อเวลา 10.24 น.
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ปีหน้าจะเป็นปีของกลุ่มสื่อสารจากนโยบายเศรษฐกิจตามแผน Digital Economy ซึ่งมีโอกาสได้เห็นการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนด้านโครงข่าย มองผู้ชนะที่สำคัญได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) (ราคาเป้าหมาย 281 บาท) และบมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์(INTUCH) (ราคาเป้าหมาย 100 บาท)
ด้านบล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ADVANC (FV@B250) คาดว่ากำไรงวด 3Q57 กระเตื้องขึ้นจากงวด 2Q57 เล็กน้อยราว 1.4%qoq แม้รายได้ค่าบริการชะลอตัว ตามภาวะอุตสาหกรรม แต่พบว่าค่าใช้จ่ายโฆษณาได้ลดลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในงวด 4q57 กำไรสุทธิน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผลจากฤดูกาล โดยรวมทำให้กำไรปี 2557 ยังทรงตัว และยังเป็นไปตามประมาณการเดิม
ส่วนบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น INTUCH ให้ราคาพื้นฐาน 90.00 บาท โดยเสน่ห์ในการลงทุนหุ้นตัวนี้ คือ เงินปันผลที่จ่ายออกมาสูง คาดว่าปีนี้เป็น 4.90 บาท และปีหน้าเพิ่มเป็น 5.60 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ดีคือ 6.7% และ 7.6% ตามลำดับ
แนวโน้มธุรกิจของ ADVANC อยู่ในช่วงฟื้นตัว ด้วยปัจจัยต่างๆ คือ 1) เศรษฐกิจไทยค่อยๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัดซึ่งเป็นตลาดหลักของ ADVANC 2) บริหารค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น สัดส่วนค่าใช้จ่ายการตลาดต่อรายได้บริการลดต่ำลง 3) เพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่เป็น 3G มากขึ้นเป็น 80% เทียบกับ 1Q57 ที่ 62% (ต้นทุนดำเนินงานของ 3G ต่ำกว่า 2G) และ 4) แม้ว่าการประมูล 4G ได้ถูกเลื่อนไปปีหน้า แต่หากล่าช้า ADVANC มีแผนสอง คือ ใช้ Small-cells และ Base-station จาก ทศท.ที่เป็น Bandwidth 2.1 GHz โดยปราศจากเงินลงทุนเพิ่มเติม
ส่วน THCOM คาดว่าจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสามารถครอบคลุมผู้ชมถึง 16 ล้านราย หรือคิดเป็น 70% ของจำนวนครัวเรือนของไทย โดยคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของกำไรระหว่างปี 57-61 จะมีให้เห็น ด้วยปัจจัย 1) ความสามารถในการให้บริการที่เพิ่มขึ้นจากดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 (ใน 1H59) 2) เป้าหมายอัตราการใช้บริการดาวเทียม iPSTAR เป็น 80% ใน 3Q59 จาก 54% ใน 2Q57 และ 3) การประหยัดต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับทางการ คือ ไทยคม 7 เป็น 5.2% เทียบกับดาวเทียมดวงก่อนๆ ที่จ่าย 20.5%