นายสิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และหัวหน้าสายงาน Corporate Finance and Equity Capital Markets ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า CBG มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 1,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 850 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 850 ล้านหุ้น
และภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งนี้จำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น รวมกับการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมอีกจำนวนไม่เกิน 100 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญชำระแล้วทั้งสิ้น 1,000 ล้านหุ้น โดย CBG มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อจะนำไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน ขยายธุรกิจในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CBG กล่าวว่า CBG เป็นบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบันบริษัทฯ ลงทุนในหุ้นของบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก 3 บริษัท ได้แก่ 1) บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด เป็นผู้ผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวแดง และเครื่องดื่มอื่นๆ ปัจจุบัน CBD ผลิตเครื่องดื่ม 2 ชนิด ได้แก่ คาราบาวแดง และเครื่องดื่มเกลือแร่ภายใต้เครื่องหมายการค้าสตาร์ทพลัส
2) บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด เป็นบริษัทซึ่งบริหารจัดการการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ ให้แก่ช่องทางการค้าภายในประเทศผ่านร้านค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และร้านค้าแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) และ 3) บริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด เป็นผู้ผลิต และจัดหาขวดแก้วเพื่อใช้ในการบรรจุเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่นๆ ของกลุ่มบริษัทฯ
นายเสถียร กล่าวต่อว่า บริษัทมีเป้าหมายในการขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศเมียนมาร์และประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ บริษัทใช้กลยุทธ์ในการเลือกประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพ มีการเจริญเติบโตสูง และมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดี เช่น มีอัตราการเติบโตของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัวที่สูง มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่ และมีกลุ่มผู้บริโภคที่มีความคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และมีแนวโน้มจะหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ของบริษัท
ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทได้ส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังไปจำหน่ายในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในปี 47 และได้ขยายสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 56 บริษัทมีรายได้จากการส่งออกทั้งสิ้น 1,552 ล้านบาท คิดเป็น 22.6% ของรายได้จากการขายทั้งหมด โดยตลาดหลักที่ประสบความสำเร็จในการส่งออก ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่าทางบริษัทจะนำความสำเร็จในการส่งออกไปยังประเทศกัมพูชามาเป็นกลยุทธ์หลักในการขยายไปยังตลาดเป้าหมาย ทั้งในเมียนมาร์และเวียดนาม
นางสาวณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ CBG กล่าวว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัง IPO ประกอบด้วยกลุ่มนายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ 34.3% กลุ่มนางสาวณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ 26.6% กลุ่มนายยืนยง โอภากุล 14.2% และเสนอขายต่อประชาชนอีก 25% ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของงบการเงินรวมและภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฏหมาย ทั้งนี้ อัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน เงื่อนไขและข้อจำกัดที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
ด้านผลการดำเนินงานในปี 56 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 6,929.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,920.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.3 จากปี 55 ที่มีรายได้รวม 5,008.7 ล้านบาท และในปี 54 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 4,309.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 699.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.2 จากปี 55 ส่วน 6 เดือนแรกปี 57 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 3,743.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.1 จากช่วง 6 เดือนแรกปี 56
กำไรสุทธิในปี 56 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 626.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 438.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 233.6 จากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 187.8 ล้านบาท และในปี 54 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 204.5 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรกปี 57 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 495.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 298.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 152.3 จากช่วง 6 เดือนแรกปี 56