สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 66,878 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 39,986 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 59.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 21,027 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 31.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 601 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB296A, LB616A และ LB15DA (รุ่นอายุ 14.7 ปี, 46.7 ปี และ 1.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 15,197 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)(MBK27NA) มูลค่า 126.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN244B) มูลค่า 106.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกันของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)(QH174A) มูลค่า 83.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 316.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 921 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -534 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,749 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.05% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.77% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.02%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-4 bps. นักลงทุนบางส่วนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ล่าสุดตัวเลขมูลค่าการส่งออกไทยเดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 3.19% ดีกว่าคาดไว้ อยู่ที่ 1.99 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน ตค. ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 94.5 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 87 จุด ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก ด้านตลาดยังคงติดตามผลการประชุม FOMC คืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 3,749 ล้านบาท