"รายได้ทีวิดิจิตอลปีนี้เราก็ไม่ได้ประเมินว่าดี โชคดีที่รายการฮอร์โมน สงครามนางงาม สร้างผลงานที่เด่นชัด"นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนปี 58 บริษัทคาดว่ารายได้จะมากกว่าปีนี้ เพราะมีรายได้จากธุรกิจทีวีดิจิตอลเข้ามาเต็มที่ หลังจากที่ได้ทุ่มลงทุนไปในทีวีดิจิตอล 2 ช่องรวมกันราว 2-3 พันล้านบาท คาดว่าจะสร้างรายได้กลับเข้ามาจากทั้ง 2 ช่องเกินกว่า 2,000 ล้านบาท และบริษัทจะพยายามบริการให้ธุรกิจทีวีดิจิตอลให้ถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า ขณะที่ผลประกอบการน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ หรือพลิกกลับมาเป็นบวกได้
"ปี 58 คาดหวังทุกอย่างจะลงตัว การวัดเรตติ้งน่าจะดีขึ้น เพราะเรื่องเรตติ้งเราก็รอคอยอยู่ที่ผ่านมาเรตติ้งยังไม่สมบูรณ์ การแข่งขันปี 58 ก็น่าจะชัดเจน ปี 58 จะพยายามทำให้คุ้มทุนทั้ง 2 ช่อง เพราะปีหน้าโอกาสในการทำรายได้จะดีขึ้นกว่าปีนี้ที่ค่อยๆทยอยเข้าสู่ระบบ"นายไพบูลย์ กล่าว
ทั้งนี้ ธุรกิจดิจิตอลทีวี เป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการที่มีคอนเท้นท์ โดยเฉพาะ GRAMMY ที่มีอิสระในการสร้างคอนเทนท์หลากหลาย ทำให้จากเดิมเป็นหุ้นปันผล จากนี้ไปจะเป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตแบบไม่มีขีดจำกัด หลังจากชนะประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลทำให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโตได้อย่างกว้างขวางและมั่นคง โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวมภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
"ปีนี้เราขาดทุนหยุดแล้ว เราได้ทำการแก้ไขปัญหาเพย์ทีวีแล้ว ถึงแม้ปีนี้งบฯยังไม่สวยงามนักเพราะการลงทุนเพิ่งเริ่ม แต่ปี 58 จะเป็นบวก และรายได้น่าจะเกินกว่าปีนี้ เชื่อว่าปี 58 จะกลับมาปกติและเป็นกำไร ซึ่งเป้าหมายเดิมธุรกิจทีวีใน 1-2 ปีจะมีรายได้มากกว่าครึ่ง จากนี้ไปก็จะเน้นธุรกิจเพลง และ ดิจิตอลทีวี เป็นหลัก"นายไพบูลย์ กล่าว