ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยภายหลังจากผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)ไม่ได้สร้างความ surprise โดยผลออกมาก็มีการยุติการใช้มาตรการ QE ตามที่ตลาดคาดไว้แล้ว ต่อไปก็ต้องรอดูทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐต่อไปว่าจะเป็นเมื่อใด แต่จากงบดุลและโอกาสความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อที่จะปรับลดลงตามราคา Commodity อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วนัก
ส่วนบ้านเรามีความคาดหวังจากที่ม.รงว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจออกมาระบุว่าอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาเพิ่มเติม และอาจทำให้ดัชนีฯมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,600 จุดได้
พร้อมให้แนวรับวันนี้ 1,556-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570-1,580 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(29 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,974.31 จุด ลดลง 31.44 จุด(-0.18%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,549.23 จุด ลดลง 15.06 จุด(-0.33%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,982.30 จุด ลดลง 2.75 จุด(-0.14%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 42.59 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.14 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 21.87 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 13.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.57 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 3.20 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.24 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 ต.ค.)1,562.67 จุด เพิ่มขึ้น 6.14 จุด(+0.39%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 992.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ต.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(29 ต.ค.)ที่ 82.2 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 78 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 ต.ค.)ที่ 5.07 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.55/56 หลัง FOMC ยุติใช้ QE
- รัฐบาลเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัลหวังสร้างโอกาส-ประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ เริ่มทันที 1 ม.ค.ปีหน้า ด้านเอกชนหนุนเต็มที่มั่นใจหากทำได้จริง เพิ่มขีดแข่งขันประเทศขณะเดียวกันเป็นห่วงความพร้อมของคนการศึกษาไม่เอื้อ ห่วงเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทำนโยบายสะดุด
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการชุดเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใหม่ในไทย โดยคาดว่าจะมีประมาณ 15-16 มาตรการ ทั้งมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษี เช่น การส่งเสริมให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ในไทยสามารถใช้กรุงเทพมหานคร(กทม.)เป็นฐานการลงทุนเชื่อมโยงกับการลงทุนในภูมิภาค
- พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้เป็นวันแรกที่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง ผู้ให้บริการทางด่วนโทลล์เวย์จะเริ่มเก็บอัตราค่าผ่านทางใหม่จากช่วงดินแดง-อนุสรณ์สถาน ตลอดเส้นทางอีก 15 บาท ซึ่งรถ 4 ล้อ จากเดิมราคา 85 บาท ปรับเป็น 100 บาท รถมากกว่า4 ล้อ จาก 125 บาท เป็น 140 บาท
- ธนาคารโลกปรับอันดับไทยประเทศน่าลงทุนที่ 26 ของโลก ดีขึ้นกว่าปีก่อน 2 อันดับ ชี้ขออนุญาตก่อสร้างได้คะแนนอันดับ 6 สะดวกและประหยัดเวลา เผยไทยเป็นกรณีศึกษา 7 ปีใช้เทคโนโลยีทันสมัยช่วยธุรกิจลดระยะเวลาส่งออก-นำเข้าลงครึ่งหนึ่ง ส่วนสิงคโปร์ยังครองแชมป์
- "ประจิน' สั่ง ร.ฟ.ท.เร่งสรุปแผนฟื้นฟูมาเสนอต่อกระทรวงคมนาคมอีกครั้งในวันที่ 4 พ.ย. ก่อนเสนอซูเปอร์บอร์ดเดือนหน้า พร้อมชี้รถไฟต้องจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ใน 3 ด้าน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TSE(บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่)เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเหมาะสม 5.10 บาท/หุ้น TSE เป็นผู้เล่นรายใหม่ของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ที่กำลังจะเริ่มเข้าสู่ปี 58 ด้วยผลกำไรที่มั่นคง และเติบโตสูงถึง 1,257% YoY พร้อมด้วยฐานะทางการเงินเข้มแข็งที่จะเปิดโอกาสให้เข้าไปรับส่วนแบ่งการจัดสรรของทางการ มองว่า TSE ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศราว 8% น่าจะเป็นผู้ประกอบการอีกรายที่น่าจับตามอง กลุ่มผู้บริหารมีความกว้างขวางในภาคธุรกิจสูงน่าจะต่อยอดการเติบโตได้ในระยะยาว
- ITD(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 7.00 บาท คาดจะ Outperform ตลาดได้ใน 4Q57 จากความคืบหน้าของโครงการทวายคาดจะได้สัมปทาน 75 ปีพัฒนานิคมฯ รวมระบบสาธารณูปโภค ท่าเรือ,โรงไฟฟ้า,ระบบขนส่งและโทรคมนาคม คาดรัฐบาลเมียนมาร์ลงนาม ITD ในการประชุมผู้นำอาเซียนระหว่าง 12-13 พ.ย.ที่กรุงเนปิดอว์ และราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มรับเหมาฯใหญ่ คงมุมมองบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯปี 58 จากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้ารางคู่ 2 เส้นทาง และรถไฟฟ้าอย่างน้อย 4 เส้นทาง
- JAS(เคทีบี)"เก็งกำไร"ราคาหุ้นจะได้แรงหนุนบวกจากการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.57 ซึ่งเป็นบวกต่อการขยายธุรกิจและการจ่ายเงินปันผลของ JAS โดยให้ราคาเป้าหมาย JAS เท่ากับ 8.47 บาท