ทั้งนี้ บริษัทมองโอกาสทางธุรกิจในปีหน้าจะมีมากขึ้นจากการลงทุนของภาครัฐที่เกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟฟ้าสายต่างๆ การขนส่งระบบราง หรือทีวีดิจิตอล ซึ่งบริษัทฯถือว่ามีความพร้อมและมีความเชี่ยวชาญที่จะเข้าไปรับงานในกลุ่มดังกล่าว ขณะนี้เตรียมจะเข้าประมูลงานระบบอาณัติสัญญาณในโครงการรถไฟรางคู่ ประกอบกับ คาดว่าแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/58 เป็นต้นไปจากศักยภาพการบริหารประเทศของรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามก็ยังขึ้นอยู่กับสภาวะจากภายนอกประเทศด้วย
นอกจากนั้น บริษัทยังเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลมีแนวคิดสนับสนุนให้เกิด Digital Economy ส่วนตัวมองว่าเป็นแนวความคิดที่ถูกต้อง โดยในฐานะที่บริษัทก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของ IT บริษัทฯก็มีขีดความสามารถที่จะเข้าร่วมลงทุนกับภาครัฐในโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าว
"ปี 58 มองว่าภาครัฐมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เราก็มีความพร้อมที่จะเข้ารับงานภาครัฐ โดยเล็งเข้าร่วมประมูลในโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งเราก็หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีของบริษัท โดยคาดหวังรายได้เติบโตราว 10% จากปีนี้ที่น่าจะเติบโตใกล้เคียง 1.7 หมื่นล้านบาท"นางธงชัย กล่าว
ด้านนายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ LOXLEY กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 900 ล้านบาทสำหรับขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในโครงการโซลาร์ฟาร์ม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 15 เมกะวัตต์ ซึ่งจะจับมือกับพันธมิตรที่เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% จากปัจจุบันที่บริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ 8 เมกะวัตต์ โดยจะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุนกันในเดือน พ.ย.นี้
พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่ายร่วมกับ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) และบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี(RATCH) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาสายพันธุ์สาหร่าย โดยอาศัยเทคโนโลยีจากประเทศออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิงทดแทน
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมยังอยู่ระหว่างการวัดระดับแรงลมหลังจากติดตั้งเสาแล้วใน 2 จังหวัด คือ นครราชสีมาและนครศรีธรรมราช คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้กลางปี 58