นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นบมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี(EE), บมจ.เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น(MLINK), บมจ.ณุศาศิริ(NUSA), บมจ.ระยองเพียวริฟายเออร์(RPC), บมจ. วธน แคปปิตัล(WAT), บมจ.เอเวอร์แลนด์(EVER), บมจ. เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้(KC), บมจ. แอสเซท ไบร์ท(ABC), บมจ.โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม(RCI), บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น(CSS), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(GENCO-W1) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY-W)มีโอกาสเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)คาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
โดยหุ้น EE และ MLINK ใช้ต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ ส่วนหุ้น NUSA, RPC, WAT, EVER, KC, ABC, RCI, CSS, CCN, GENCO-W1, LOXLEY-W และจะใช้ต่อเนื่องไป 6 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักทรัพย์ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Turnover list P/E หรือ พรีเมียม (ล้านบาท) (%) (เท่า/%) EE 160.97 58.25 234.88 MLINK 264.23 62.91 ขาดทุน NUSA 189.65 40.21 ขาดทุน RPC 547.06 190.95 ขาดทุน WAT 160.62 189.88 ขาดทุน EVER 1,284.50 141.60 1,028.40 KC 166.01 169.31 179.31 ABC 442.98 94.54 92.69 RCI 146.58 59.08 59.67 CSS 266.85 54.27 43.40 CCN 422.10 872.30 57.46 GENCO-W1 224.96 393.51 32.52% LOXLEY-W 189.85 609.31 105.51%