BA เริ่มซื้อขายวันแรก 3 พ.ย. ขนาดใหญ่สุดปีนี้ ระดมทุนขยายฝูงบิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 31, 2014 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2557 โดย BA ดำเนินธุรกิจให้บริการสายการบินเต็มรูปแบบระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่อ “บางกอก แอร์เวย์ส" ให้บริการเที่ยวบินแบบประจำในเส้นทางการบินภายในประเทศ 14 เส้นทาง และเส้นทางการบินระหว่างประเทศ 13 เส้นทาง รวมไปถึงการทำความตกลงเที่ยวบินร่วม (Code Share Agreement) กับสายการบินอื่น 14 สายการบิน และยังประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ธุรกิจสนามบิน บริการกิจการภาคพื้นดิน ครัวการบิน และบริการคลังสินค้าระหว่างประเทศให้กับสายการบินตนเองและสายการบินอื่นๆ ผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วม

BA มีทุนชำระแล้ว 2,100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,580 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 520 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 25 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปและผู้ลงทุนรายย่อย เมื่อวันที่ 14-17 ต.ค. 2557 และเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันเมื่อวันที่ 21-22 และ 24 ต.ค. 2557 โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 52,500 ล้านบาท และมีมูลค่าระดมทุนรวม 13,000 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) เปิดเผยว่า การระดมทุนครั้งนี้ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและสนับสนุนการเติบโตในอนาคตของบริษัท โดยจะนำเงินไปขยายฝูงบิน จัดซื้อเครื่องยนต์ อะไหล่ และอุปกรณ์สำรองสำหรับฝูงบิน ก่อสร้างโรงซ่อมอากาศยานที่สนามบินสุวรรณภูมิ ปรับปรุงสนามบินสมุย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

BA มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวปราสาททองโอสถ 71.9 % CREDIT SUISSE (SINGAPORE) LIMITED 3.2% บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 0.9% และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) 0.9% โดยในวันแรกของการซื้อขาย ผู้ถือหุ้นเดิมจะเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงในรูปแบบ Big-Lot จำนวน 165 ล้านหุ้น คิดเป็น 8% ตามข้อมูลที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน การกำหนดราคาหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) โดยราคาดังกล่าวคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) 166.67 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (312.87 ล้านบาท) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท 2,100 ล้านหุ้น หลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.15 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทหลังหักภาษีและเงินสำรองตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ