อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือการฟื้นตัวแบบไม่สมดุลในระบบเศรษฐกิจโลก กล่าวคือ สหรัฐฯมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และ ยุติมาตรการคิวอี อีกทั้งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2558 ขณะที่ญี่ปุ่นและยูโรโซนอาจต้องพึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในการดำเนินนโยบายที่แตกต่างกันนี้จะก่อให้เกิดความผันผวนต่อค่าเงิน และความเสี่ยงในด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยเงินบาทอาจถูกกดดันจากแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ
ฝ่ายวิจัยกรุงศรีคาดการณ์ค่าเงินบาทในปี 2558 จะซื้อขายอยู่ในช่วง 33.00–33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรืออ่อนค่าลง 1.5 – 3% จากปี 2557
"สิ่งที่เราอยากเห็นการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในทิศทางที่สอดคล้องกับภูมิภาค และสามารถคาดการณ์โดยไม่ผันผวนเกินไป เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมการรับมือ หรือป้องกันความเสี่ยงผ่านอนุพันธ์ทางการเงินได้อย่างทันท่วงที"นายตรรก กล่าว