รวมไปถึงปัจจัยต่างประเทศ อาทิ ล่าสุดทางญี่ปุ่นได้มีการใช้มาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ และในวันที่ 6 พ.ย.นี้ คาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะมีการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน ส่งผลให้มีเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ซึ่งจากเดิมคาดว่าเงินจะไหลเข้าสหรัฐฯเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้น แต่เชื่อว่าคงจะไม่ไหลกลับรุนแรงมากนัก เนื่องจากการอัดฉีดเม็ดเงินในหลาย ๆ ประเทศ ทำให้สภาพคล่องเหลืออยู่ในระบบค่อนข้างมาก และยังมีเงินไหลมาในตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ได้รับอานิสงค์นั้นเช่นกัน ขณะที่การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) คาดว่าจะอยู่ที่ 16%
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ซื้อหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนตามนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐฯ รวมถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ช่วยให้เอกชนมีการลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ยังได้รับประโยชน์จากการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศอีกด้วย