(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาค รับแรงหนุนจากใน-นอกปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 3, 2014 09:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่ปรับขึ้นแรง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดตลาดเช้านี้อยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ราว 0.3-0.5% รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)สร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด ประกอบกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯเดือนตุลาคมออกมาดี

ด้านปัจจัยในประเทศยังได้รับแรงหนุนจากกองทุน LTF และ RMF ที่ปกติมีการซื้อสุทธิมากที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม นอกจากนี้ยังจะมีเม็ดเงินจากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ จำนวน 3 กอง เข้ามาในช่วงกลางสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตามให้จับตาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า และทำให้มีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้นได้ในระหว่างวัน ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดหุ้นผันผวนได้

พร้อมให้แนวต้าน 1,590-1,595 จุด แนวรับ 1,575-1,580 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(31 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,395.54 จุด เพิ่มขึ้น 195.10 จุด(+1.13%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,630.74 จุด เพิ่มขึ้น 64.60 จุด(+1.41%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,018.05 จุด เพิ่มขึ้น 23.40 จุด(+1.17%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 135.39 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 31.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.32 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.67 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันวัฒนธรรมแห่งชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(31 ต.ค.)1,584.16 จุด เพิ่มขึ้น 18.81 จุด(+1.20%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 42.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ต.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(31 ต.ค.)ที่ 80.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 58 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(31 ต.ค.)ที่ 5.91 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.61/62 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังบีโอเจใช้มาตรการ QE
  • ธปท.จับตาผลกระทบ"คิวอี"ญี่ปุ่นคาดไม่เท่าเฟด เหตุดอลลาร์ใช้กันแพร่หลายกว่า ประเมินส่งออกกระทบไม่มาก ขณะนักเศรษฐศาสตร์คาด กนง.คงดอกเบี้ย 2% ในการประชุม 5 พ.ย.นี้ ชี้เป็นระดับที่เหมาะสมการฟื้นตัวเศรษฐกิจ เงินเฟ้อหมดห่วงหลังราคาน้ำมันลดต่อเนื่อง
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานดุลบัญชีทุนเคลื่อนย้ายล่าสุด ณสิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมาว่า ไตรมาสนี้มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 2,173 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7.07 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ระดับ 32.55 บาท/เหรียญสหรัฐ เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 1,140 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.71 หมื่นล้านบาท
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ปรับลดประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของปีนี้ลงเป็นติดลบ 3% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 1.5-2% ซึ่งถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากปี 2556 ที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมติดลบ 3.2% หลังดัชนีผลผลิตอุตสาห กรรมในช่วง 9 เดือนแรกติดลบและยังไม่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ผู้ซื้อรถยนต์ในโครงการรถคันแรกไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้จนต้องถูกยึดรถคืน ส่งผลให้ปริมาณรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้นอย่างมากและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงมีแนวคิดที่จะผลักดันให้มีการส่งออกรถยนต์มือสองไปต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาอัตราภาษีและมาตรฐานการนำเข้ารถยนต์มือสองของแต่ละประเทศ ก่อนส่งเสริมให้มีการส่งออกรถยนต์มือสอง โดยมีตลาดที่สำคัญ คือ ตลาดในประเทศเพื่อนบ้านและตลาดแอฟริกา เช่น เคนยา เป็นต้น
  • กระทรวงคลังเสนอตั้ง"เอสเอ็มอี เวนเจอร์ แคปปิตอล"วงเงินราว 5 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีอนาคตดีแต่ขาดหลักประกันที่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ เชื่อหนุนเศรษฐกิจเติบโตได้ในระยะกลาง เล็งเปิดทางเอกชนร่วมลงทุน ขณะที่คลังใส่เงิน 10% วางแผนดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ส่วนการบริหารงานยึดโครงสร้างแบบ กบข.จ้างมืออาชีพมาบริหาร
  • อธิบดีกรมศุลกากร ยืนยันเป้ารายได้ปีหน้า 1.18 แสนล้านบาท เผยปัจจุบันมีผู้นำเข้าใช้สิทธิภาษี 0%เพียง 20-25% ของการนำเข้าสินค้าทั้งหมด ทำให้ภารกิจหลักกรมฯยังอยู่ที่การจัดเก็บรายได้ พร้อมเผยมีแผนตรวจเข้มสินค้ารถยนต์เลี่ยงภาษี เพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีกราว 700-800 ล้านบาท
  • ธปท.เผยตัวเลขเอ็นพีแอล-หนี้ครัวเรือนพุ่งตามภาวะเศรษฐกิจซบเซา แต่ปริมาณไม่มากและยังไม่มีสัญญาณอะไรน่ากังวลใจมากเกินไป แจงการขยายตัวสินเชื่อแผ่ว 5.2% ล่าสุดในเดือน ก.ย. 57 ตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่แบงก์ยังเข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อ รวมถึงเริ่มเห็นภาคธุรกิจหันไประดมทุนผ่านตราสารหนี้-ตราสารทุนแทน ส่วนหนึ่งต้นทุนการระดมทุนที่ต่ำ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BA (บมจ.การบินกรุงเทพ)เข้าเทรดวันนี้วันแรก ในตลาด SET สังกัดกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ราคาจอง 25 บาท(ยังติด Blackout ถึงวันที่ 28 พย.) บล.บัวหลวง คาดมูลค่าตลาดเหมาะสมที่ 62,081-72,047 ล้านบาท (จำนวนหุ้นจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO อยู่ที่ 2,100 ล้านหุ้น)

BA ประกอบธุรกิจสายการบิน ธุรกิจสนามบิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบิน ได้แก่ การให้บริการกิจการภาคพื้นดิน การให้บริการอาหารบนเที่ยวบิน และการให้บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศให้กับสายการบินของตนเอง และสายการบินอื่นๆ โดยผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วม

  • SCB(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 235 บาท จุดเด่นมีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อที่ดีและมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานมีความยืดหยุ่นสูง หากขายหุ้น SCBLIF 25% ให้กับพันธมิตรต่างชาติตามข่าวจริงจะบันทึกกำไรก้อนใหญ่ใน 4Q57 และเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ซึ่งตามกระแสข่าวธนาคารจะมีการแถลงข่าวในวันนี้ ส่วนแนวโน้มดีขึ้นใน 4Q57 โดยเฉพาะสินเชื่อที่พักอาศัย
  • TOP(บัวหลวง)รายงานพลิกขาดทุน 3Q14 ที่ 2,175 ล้านบาท ขาดทุนตามคาด ส่วนผลการดำเนินงานปกติไม่รวมขาดทุนสต็อกน้ำมัน ขาดทุน 727 ล้านบาท จึงมองว่าผลการดำเนินงานน่าจะผ่านจุดต่ำสุด แต่ยังไม่มีการฟื้นตัว คงแนะ"ถือ"ราคาเป้าหมาย 45 บาท (เต็มมูลค่า)
  • BTS(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท ลุ้นเดินรถไฟฟ้าสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ คาดได้ข้อสรุปภายใน 4 เดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ