NCL ปิดโรดโชว์ 8 จว.มั่นใจจอง IPO 3-5 พ.ย.เกลี้ยงจากปัจจัยพื้นฐานแน่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 3, 2014 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.แอพเพิล เวลธ์ ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) เปิดเผยว่า การนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ต่อนักลงทุนใน 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, ชลบุรี, เชียงใหม่,กรุงเทพฯ, หาดใหญ่, ขอนแก่น, ภูเก็ต และพิษณุโลก ในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลการตอบรับจากนักลงทุนดีมาก เนื่องจากธุรกิจของ NCL มีความแข็งแกร่งและศักยภาพการเติบที่โดดเด่นอย่างมาก

NCL ให้บริการด้านการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทั้งบริการขนส่งภายในประเทศ และจัดการขนส่งระหว่างประเทศ สามารถบริหารจัดการขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ กว่า 180 ประเทศทั่วโลก ประกอบกับ มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์กว่า 18 ปี

"เชื่อว่าผลจากการทำโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลการประกอบธุรกิจและข้อมูลฐานะการเงินของบริษัทอย่างครบถ้วน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่มีต่อ NCL มากยิ่งขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายนนี้ จะมีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นอย่างคึกคัก"นายประสิทธิ์ กล่าว

นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NCL กล่าวว่า ผลการจัดโรดโชว์มีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างคึกคัก สะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจของบริษัท อีกทั้งเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ และมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทำให้เชื่อว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้น IPO กระแสการตอบรับจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน

ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)ของ NCL กล่าวว่า รายได้รวมในช่วงที่ผ่านมาของ NCL มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มให้บริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศและบริการขนส่งในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายขอบเขตการให้บริการที่หลากหลายและครอบคลุม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรของบริษัท

ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดปี 54, 56, 57 และงวด 6 เดือนแรกของปี 57 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 511.40 ล้านบาท, 727.85 ล้านบาท, 935.91 ล้านบาท และ 488.49 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 7.21 ล้านบาท, 3.07 ล้านบาท, 41.62 ล้านบาท และ 16.36 ล้านบาทตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ