ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าวจะยังคงถูกขับเคลื่อนโดยการใช้งานดาต้าที่เติบโตด้วยอัตราเร่ง ถึงแม้ว่าการใช้บริการเสียงจะลดลง ด้วยการผลักดันให้ลูกค้ามาใช้บริการ 3G-2.1GHz ส่งผลให้ต้นทุนค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ลดลง (เหลือ 5.25% ของรายได้ จาก 20-30% บนระบบสัญญาร่วมการงานเดิม) ทำให้คาดว่า service EBITDA margin จะเพิ่มขึ้น 300bps เทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรจากการขายมือถือยังมีแนวโน้มลดลงจากการให้โปรโมชั่นและส่วนลดแก่ลูกค้า ถึงแม้ว่ามือถือ ‘AIS Super Combo’ จะสามารถขายได้เกินเป้าหมายมาก ทำให้คาดว่า consolidated EBITDA margin จะโตขึ้น 100bps เทียบกับปีก่อน
ส่วนงบลงทุนทั้งปียังคงอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทยังคงลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ADVANC ได้ใช้งบลงทุนไปแล้วประมาณ 26,000 ล้านบาท ซึ่งได้ใช้สำหรับสร้างสถานีฐาน 3G-2.1GHz โดยปัจจุบันมีสถานีฐานทั้งสิ้น 20,500 สถานี ซึ่งครอบคลุม 97% ของประชากรทั้งหมด
นอกจากนั้น ADVANC ยังคงขยายโครงข่ายใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสาคัญในการให้บริการต่างๆ ของ ADVANC รวมไปถึงธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ในปีหน้า อีกทั้งบริษัทยังคงติดตั้ง small cells และจุดเชื่อมต่อ WiFi เพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น โดยคาดว่าต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจาหน่ายในปีนี้จะสูงขึ้นประมาณ 15% เทียบกับปีก่อน
ในต้นปี 2558 ADVANC จะเริ่มลงทุนในธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์อย่างเป็นทางการ เนื่องด้วย ADVANC ต้องการเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิตอลที่ครบวงจร อินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สาหรับลูกค้าในการเชื่อมต่อภายในบ้าน และเชื่อมต่อผ่านมือถือขณะอยู่ภายนอก
ADVANC สามารถใช้ประโยชน์จากโครงข่ายใยแก้วนำแสงจานวนมากทั่วประเทศ ในการให้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้แก่ FTTx และ VDSL โดยเม็ดเงินลงทุนสาหรับธุรกิจนี้ในระยะแรกถูกตั้งไว้ที่ 4,600 ล้านบาท เพื่อรองรับการเชื่อมต่อ 1 ล้านครัวเรือน และตั้งเป้าหมายในการหาลูกค้าจำนวน 300,000 ราย ทั้งนี้ ในปีแรก (2558) ADVANC จะใช้งบลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเชื่อมต่อ 250,000 ครัวเรือน และตั้งเป้าในการหาลูกค้าให้ได้ 80,000 ราย