พร้อมกันนี้บริษัทยังมองหาพันธมิตรเข้ามาเสริมศักยภาพของบริษัทย่อยที่อยู่ระหว่างศึกษาการจัดตั้งธุรกิจใหม่ขึ้นมาต่อยอดธุรกิจหลักเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคตรองรับการขยายทางเลือกออกไปนอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยในเดือน พ.ย.จะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ 2 บริษัท คือ บริษัท ยูเรกา ออโตเมชั่น จำกัด และ บริษัท ยูเรก้า เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อเป็นการรองรับภาวะที่แนวโน้มอุตสหกรรมรถยนต์ในประเทศยังอาจไม่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในเร็ว ๆ นี้
สำหรับ ยูเรกา ออโตเมชั่น จะเป็นบริษัทที่เข้าร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และนอกอุตสาหกรรมรถยนต์ คาด EUREKA จะถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 50% เป้าหมายหลักเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการขยายโอกาสการจำหน่ายสินค้าได้ทั้งในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสากรรมรถยนต์และไม่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์
ส่วนยูเรกา เทรดดิ้งนั้น EUREKA จะถือหุ้น 100% รูปแบบการดำเนินุรกิจจะเน้นสนับสนุนงานของกลุ่มบริษัททั้งหมด รวมทั้งการขายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง ซึ่งสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องล้างกล่องพลาสติก
"การจัดตั้ง 2 บริษัทย่อยดังกล่าวบริษัทจะนำเรื่องเข้าขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายในเดือนธันวาคมนี้ และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า"นายนรากร กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนเพิ่มศักยภาพของสาขาในประเทศอินโดนีเซียและอินเดียให้สามารถผลิตสินค้าได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อลดต้นทุนแทนการนำเข้าสินค้าจากไทยไปขาย ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มมากขึ้น โดยวางงบลงทุนในปี 58 สำหรับการซื้อเครื่องจักรและขยายพื้นที่ทั้ง 2 สาขาราว 40 ล้านบาท และปี 59 จะลงทุนเพิ่มอีก 60 ล้านบาท
ด้านสาขาในเวียดนามก็จะมีการปรับรูปแบบจากสาขาของตัวแทนจำหน่ายเป็นสาขาของบริษัทเอง ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 3/58 เป็นต้นไป
นายนรากร กล่าวว่า เงินลงทุนตามแผนงานดังกล่าวจะนำมาจากการการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)จำนวน 17 ล้านหุ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจเข้ามาซื้อหุ้น PP ดังกล่าวก่อนครบกำหนดเวลาในเดือน เม.ย.58 ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้น PP ราว 50 ล้านบาท
ขณะที่สาขาในประเทศนั้นในช่วงเดือน ธ.ค.57 จะมีการเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาที่ จ.ระยอง จากปัจจุบันบริษัทมีสาขาในประเทศเพียง 1 สาขาที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยสาขาที่ จ.ระยอง จะช่วยสนับสนุนงานขายสินค้าให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าผู้ผลิตรถยนต์ที่ส่วนใหญ่มีโรงงานใน จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี
นายนรากร กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทยังมั่นใจรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 320 ล้านบาท แม้ว่าจะต่ำกว่าปี 56 ที่มีรายได้ 403.68 ล้านบาท ซึ่งเป็นตามภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวลงจากผลกระทบสถานการณ์ทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงต้นปี ทำให้กำลังซื้อหายไปค่อนข้างมาก ส่งผลถึงคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอตัวตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังภาพรวมก็กลับมาดีขึ้นเล็กน้อย แต่ตลาดก็ยังซึมตัวอยู่ ประกอบกับ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลายรายถูกกดราคาจากผู้ผลิตรถยนต์ เนื่องจากตลาดรถยนต์มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้โอกาสการเติบโตในปีนี้เป็นไปได้ค่อนข้างยาก
“การที่ภาวะตลาดรถยนต์มันยังซึมๆแบบนี้ ทำให้เราประเมินผลการดำเนินงานในปีนี้ค่อนข้างลำบากว่าจะมีกำไรหรือขาดทุน หลังจากครึ่งปีแรกเรามีผลกาดำเนินงานขาดทุนประมาณ 7 ล้านบาท เพราะไตรมาส 2 ที่ผ่านมาลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ ทำให้ผลการดำเนินลดลงมา จากที่ไตรมาส 1 ยังดีๆอยู่ แต่เราก็พยายามทำให้กลับมาฟื้นตัวขึ้นให้ได้ ซึ่งในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาออเดอร์ก็กลับมาดีขึ้นและตอนนี้ก็ยังมีออเดอร์เข้ามาจากลูกค้าเรื่อยๆ"นายนรากร กล่าว
ทั้งนี้ EUREKA ตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโตอย่างก้าวกระโดดไปที่ 800 ล้านบาท ก่อนจะพุ่งไปสู่ 1.2 พันล้านบาทในปี 59 ซึ่งรายได้ในปีหน้าจะมาจากยูเรกา ดีไซน์ ราว 400 ล้านบาท จากสาขาในอินเดียและอินโดนีเซียราว 200 ล้านบาท จาก Fuji Ironwork ราว 50 ล้านบาท และจะมีรายได้จาก 2 บริษัทย่อยเข้ามาเพิ่มอีก ขณะนี้บริษัทมีงานในมือ(Backlog)กว่า 100 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ และส่วนที่เหลือในปีหน้า