TISCO แนะสะสม ETF สหรัฐ-ญี่ปุ่น-เอเชียเหนือ ชี้เศรษฐกิจสดใส–อัพไซต์สูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 4, 2014 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ วิเคราะห์ว่า ภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกน่าจะทำจุดต่ำสุดของไตรมาส 4 ไปแล้วในเดือนตุลาคม โดยตลาดหุ้น Euro Zone ลงหนักสุดคือ 12-14% สหรัฐฯลง 8-10% ตามด้วยเอเชียเหนือที่ 9-11% และล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศยุติ QE เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นโลกยังมีปัจจัยหนุนคือสภาพคล่องโลกที่ยังสูง จากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.05% พร้อมทำ Public QE นอกจากนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ยังออกมาประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QQE) ประกอบกับล่าสุดตัวเลข GDPสำหรับ Q3/2014ออกมาโต 3.5% ดีกว่าตลาดซึ่งคาดไว้ 3% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดขึ้นแรงเกือบถึงระดับ All Time High และหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกให้ดีขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้ บล.ทิสโก้ มองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีนอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นไทย

ตลาดหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนในช่วงนี้คือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเริ่มมองเห็นสัญญาณบวกจากตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวที่ออกมาดีเกินคาด เช่น ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐอยู่ที่ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ยังมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้อยู่ในช่วง 0-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เรามองตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าสนใจในการทยอยลงทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจตลาดหุ้นสหรัฐฯ แนะนำให้ทยอยเข้าสะสม ETF- SPDR S&P500 เมื่อดัชนี S&P500 ลงสู่แนวรับ 1,940 หรือ 1,900 จุดในเดือนนี้ เป้าหมาย 3 เดือนที่ 2,100 จุดหรือที่อัพไซต์ราว 5.3%

ด้านตลาดหุ้นแถบเอเชีย มองว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นโดดเด่นในการลงทุน โดยคาดว่าดัชนี NIKKEI จะเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ จากปัจจัยสนับสนุนคือ กองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐบาลญี่ปุ่น(GPIF) ที่ประกาศเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในประเทศจาก 17% เป็น 25% (รวมถือตราสารทุนทั้งในและนอกประเทศรวมถึง 50%) และการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเพิ่มการซื้อ Government Bond เป็นปีละ80ล้านเยน (จากเดิม50ล้านเยน) ทำให้ บล.ทิสโก้ ให้เป้าหมายสำหรับดัชนี NIKKEI ปีหน้าที่ 18,200 จุด ซึ่งหมายความว่า NIKKEI ยังคงมีอัพไซต์สูงถึง 14%โดยแนะนำ ETF- Nomura NIKKEI 225

นอกจากนี้ สำหรับ ตลาดหุ้นในเอเชียเหนือ นำโดย “ตลาดหุ้นฮ่องกง" ก็ยังมีอัพไซต์ โดยในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ดัชนี Hang Seng จะ Sideways Up ถึงแม้จะมีข่าวการชุมนุมประท้วงบนเกาะฮ่องกง เป้าที่ให้ไว้อยู่ที่ 25,600 จุดหรืออัพไซต์ราว 7% แนะนำให้ใช้การประท้วงเป็นโอกาสเข้าซื้อ ETF- Tracker Fund of Hong Kong ที่แนวรับ 23,400 หรือ 23,000 แล้วถือประมาณ 3-6 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ