สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 4 พ.ย. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 80,468 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 60,103 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 74.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,906 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.0% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,618 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB155A และ LB15DA (รุ่นอายุ 4.6 ปี, 0.5 ปี และ 1.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,875 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันใต้โครงการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นด้วยกระแสรายรับจากสิทธิเรียกร้องในค่างวดตามสัญญากู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยของบริษัท (MBSD199A) มูลค่า 403.7 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY164A) มูลค่า 382.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK154A) มูลค่า 104.7 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 891.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,186 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,673 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 888 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.05% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.64% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-2 bps. โดยพันธบัตร ธปท. อายุ 6 เดือน ที่ประมูลวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 3.41 เท่าของยอดประมูล นักลงทุนยังคงติดตามผลการประชุม กนง. วันพรุ่งนี้โดยตลาดคาดว่าจะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ตามเดิม หลังตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีทิศทางเปลี่ยนไปจากเดิม สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 888 ล้านบาท