ทั้งนี้ AJD แจ้งว่า มีแนวคิดในการจะทำประชาสัมพันธ์ลักษณะนี้จริง แต่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ เป็นเพียงการปรึกษากับทีมบริษัทประชาสัม พันธ์เท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่านักการเมืองได้นำเอาแนวคิดดังกล่าวไปดำเนินการเอง โดยวิธีการจัดทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีรูปนักการเมือง และชื่อยี่ห้อของกล่องดิจิตอลพร้อมระบุข้อความว่า เปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว
นอกจากนี้ ได้สั่งให้สำนักงานทำหนังสือชี้แจงไปยัง AJD และบริษัทที่เข้าร่วมโครงการอีก 55 บริษัท ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และมีความเข้าใจตรงกันว่า หากต้องการเพิ่มจุดรับแลกคูปองจะต้องมาแจ้งและขออนุญาตที่ กสทช.ก่อน เนื่องจากเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการได้ระบุไว้ชัดเจน อีกทั้งหากต้องการให้จุดแลกคูปองเป็นที่ทำการของพรรคการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 7 พ.ย.57 จะมีการเรียกประชุมเพื่อหารืออีกครั้งในเรื่องนี้
สำหรับความคืบหน้าจากการติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการแลกคูปองดิจิตอลทีวี และเรื่องร้องเรียน พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์คูปองแล้วกว่า 700,000 ราย และมีหลายบริษัทรับแลกคูปองโดยไม่ได้มีการขอเอกสารจากเจ้าบ้านประกอบการแลก ไม่มีการตรวจสอบสถานะคูปองตามขั้นตอน ซึ่งพบกว่า 100,000 ราย ซึ่งกรณีเช่นนี้ กสทช. ขอเตือนไปยังบริษัทที่เข้าร่วมโครงการว่า เมื่อมีประชาชนนำคูปองมาแลก บริษัทต้องตรวจสอบหลักฐาน และขอหลักฐานจากประชาชนตามขั้นตอน เพื่อนำมาประกอบในการขึ้นเงินกับธนาคาร หากไม่มีเอกสารประกอบ และไม่ดำเนินการตามกระบวนการ กสทช.ก็จะไม่จ่ายเงินให้