บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวก หลังวานนี้ รมว.พลังงานให้ความเห็นว่าเตรียมปรับราคาพลังงานทุกประเภทขึ้นในเดือน ธ.ค.โดยมีรายละเอียด ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตกลุ่มเบนซินจะลดลง และดีเซลเพิ่มขึ้น, ราคาแอลพีจี และเอ็นจีวีขายปลีกจะทยอยขยับขึ้น และราคาแอลพีจีหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะปรับเพิ่มขึ้นหลังจากควบคุมมาเกือบ 10 ปีที่ US$330.00/ตัน
ทั้งนี้ ประเมินเบื้องต้นหากมีการปรับเพิ่มราคาหน้าโรงแยกก๊าซขึ้นทุก US$50.00/ตัน จากปัจจุบันที่ US$330.00/ตัน จะเป็นบวกต่อประมาณการกำไรของ PTT ราว 2,900 ล้านบาท
ขณะที่การปรับเพิ่มราคา NGV ขึ้นทุก 1.00 บาท / ก.ก.จะส่งผลบวกต่อประมาณการกำไรของ PTT ราว 3,200 ล้านบาท แต่หากคงราคา NGV กลุ่มสาธารณะไว้ที่ 8.50 บาทต่อ ก.ก.จะส่งผลบวกให้ลดลงเหลือ 2,400 ล้านบาท
ส่วนราคาปัจจุบันยังมี Valuation ไม่แพงเทียบเท่า PER 2558 ที่ 10.4 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยราว 3.5% ต่อปี และแนะ “ซื้อเก็งกำไร"