สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 6 ต.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 65,019 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 34,768 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 53.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 22,248 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 34.2% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,378 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB15DA และ LB155A (รุ่นอายุ 4.6 ปี, 1.1 ปี และ 0.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 13,693 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)(GLOW218A) มูลค่า 650.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)(KK157A) มูลค่า 321.4 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)(CPN15OA) มูลค่า 272.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,243.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.3% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -493 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 439 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -320 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.6% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-3 bps. จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนบางส่วน ล่าสุด ธปท. เตรียมทบทวนคาดการณ์เศรษฐกิจไทย โดยจะปรับลดประมาณการ ในปี 57 และ 58 ลงจากเดิมที่คาดว่าจะโต 1.5% และ 4.8% ตามลำดับ เนื่องจากการฟื้นตัวในไตรมาส 3/57 ช้ากว่าที่คาดไว้ ด้านปัจจัยต่างประเทศตลาดจับตาผลการประชุม ECB คืนนี้ ว่าจะมีการออกมาตรการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 320 ล้านบาท