ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าซื้อหุ้น Pan Orient Energy (Siam) Limited (POES)ในสัดส่วน 49.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ POES จาก Pan Orient Petroleum Company Pte. Limited (POP) ในราคาไม่เกิน 48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ1,558 ล้านบาท) โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) ในอัตราส่วน 2:1 ในราคาหุ้นละ 5 บาท และกระแสเงินสดภายใน และ เงินกู้บางส่วนจากสถาบันการเงิน
นางสาวนีรชา กล่าวว่า การลงทุนใน POES ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานการขุดเจาะน้ำมันในประเทศไทย จะเป็นการเสริมกับธุรกิจปัจจุบันของ SEAOILและจะยังทำให้บริษัทได้ประสบการณ์และการเรียนรู้จากบริษัทสำรวจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอันจะนำไปสู่สิทธิการเข้าเป็นผู้รับสัมปทานต่อไปในระยะยาว
POES และ POP เป็นบริษัทย่อยของ Pan Orient Energy Corporation.(POE) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นโตรอนโต แคนาดา (www.panorient.ca.com) ประกอบธุรกิจสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในเอเชีย โดยเฉพาะในไทยและอินโดนีเซีย และธุรกิจน้ำมันดิบความหนืดสูง (Heavy Oil Sand) ในนอร์ธอัลเบอร์ตา-แคนาดา
POES เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติบนบกในประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้ครอบครองสัมปทานในสัดส่วน 100% ของส่วนได้เสียของสัมปทานแปลงที่ L53/48 ตั้งอยู่ที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ปัจจุบัน POES มีพื้นที่สัมปทานสำหรับการสำรวจคงเหลือประมาณ 963.12 ตารางกิโลเมตร มีความสามารถในการดำเนินการในเชิงพาณิชย์จำนวน 3 หลุม คือ L53-A, L53-D และ L53-G มีปริมาณการผลิตเฉลี่ยต่อวัน ใน 6 เดือนแรกของปี 2557 ประมาณ 700-800 บาร์เรลต่อวัน (BOPD) รวมทั้งอยู่ในขั้นตอนสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงที่เห็นว่ามีศักยภาพสูง โดยคาดว่ามีปริมาณสำรองปิโตรเลียมรวมทั้งสิ้นประมาณ 10-12 ล้านบาร์เรล
บริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น(Record Date)เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 และวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 (ขึ้นเครื่องหมายXM และXR ตั้งแต่วันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2557) โดยมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการทำรายการในวันที่ 17 ธันวาคม 2557