(เพิ่มเติม) KBANK ร่วมมือ"ตงฟงฯ"คาดปล่อยสินเชื่อรถมือสอง 300 คัน กว่า 40 ลบ.ในสิ้นปี 58

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 10, 2014 14:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็กเปิดโครงการ “ตงฟง เยส!" (DFSK Yes!) เพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการขายรถยนต์ตงฟงเก่าและแลกซื้อรถยนต์ตงฟงใหม่ หรือลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองที่มีการรับประกันคุณภาพ

ทั้งนี้ ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้รับซื้อรถเก่าโดยตรง จึงสามารถกำหนดราคารับซื้อรถเก่าด้วยราคาที่ยุติธรรม เหมาะสมตามสภาพรถ รวมทั้งการจำหน่ายรถยนต์ ตงฟงมือสองที่ผ่านมาตรฐานตงฟงแล้วด้วย โดยลีสซิ่งกสิกรไทยจะสนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อแก่ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ตงฟง เยส!" ที่ต้องการซื้อรถยนต์ตงฟงทั้งมือหนึ่งและมือสองในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ

ลูกค้าที่สนใจร่วมโครงการ “ตงฟง เยส!" และสนใจใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อจากลีสซิ่งกสิกรไทย สามารถติดต่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ตงฟง 50 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อผ่านโครงการนี้ได้ 300 คัน หรือวงเงินสินเชื่อประมาณกว่า 40 ล้านบาทภายในสิ้นปี 58

นายสุรัตน์ กล่าวว่า ในปี 57 บริษัทสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถใหม่ของตงฟง จำนวนรวม 1,300 คัน วงเงินรวม 360 ล้านบาท และมีสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Floor plan) สำหรับดีลเลอร์ของตงฟง วงเงินรวม 150 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2558 จะมียอดสินเชื่อกับตงฟงในปริมาณใกล้เคียงกัน

สำหรับปี 58 คาดว่าทิศทางความต้องการตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์จะปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยบวก โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนที่จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นชัดเจน ขณะที่การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)จะเป็นอีกแรงหนุนหนึ่งที่สำคัญทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการขนส่งมีการขยับขยายเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสะสมอยู่ จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดรถยนต์รวมทั้งปี 58 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ปีหน้ามีโอกาสขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5%

นายสุรัตน์ กล่าวว่า ธนาคารคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ (Hire Purchase) ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.8-1.9 หมื่นล้านบาท ลดลง 20% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ไม่ดี ประกอบกับกำลังซื้อส่วนใหญ่นั้นได้ถูกลดทอนลงไปจากนโยบายรถยนต์คันแรกไปแล้ว ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในสิ้นปีนี้ (Hire Purchase Outstanding Loan) จะอยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่ 8.8 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2% จากปีนี้ โดยการขยายตัวจะมาจากการรีไฟแนนซ์สิน และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่จะมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น จากการลงทุนของภาครัฐและการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

"ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้ก็ไม่ดีมาก ยอดขายปีนี้ก็คาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 800,000 คัน ตามภาวะเศรษฐกิจเราที่ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ปีหน้าคาดว่ายอดขายรถยนต์ก็น่าจะโต 5-10% จากปีนี้ ก็ราวๆ 900,000 คัน เพราะอานิสงส์จากโครงการภาครัฐและ AEC ที่จะทำให้ยอดขายรถยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้ไนเชิงพาณิชย์"นายสุรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์โดยเน้นรุกสินเชื่อรถยนต์เชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพได้ หลังจากภาครัฐมีโครงการต่างๆออกมาชัดเจน รวมไปถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐด้วย โดยปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรถยนต์เชิงพาณิชย์อยู่ที่ 40% และสัดส่วยพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ไหม่อยู่ที่ 60%

ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สิ้นปีนี้คาดว่าจะเร่งตัวมาที่ 1.2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.12% สาเหตุที่ NPL เพิ่มขึ้นในช่วงสิ้นปีมาจากการเร่งปล่อยสินเชื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 58 ธนาคารจะพยายามรักษาระดับ NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไห้ต่ำกว่าระดับ 1.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ