IVL เผยงวด 9 เดือนปี 57 กำไรหลักพุ่ง 129% จากงวดเดียวกันปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 10, 2014 17:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 57 มีรายได้รวม 189.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 56 กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) อยู่ที่ 14.4 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 56 และมีกำไรหลักสุทธิอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 129% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 56 โดยปริมาณการผลิตและรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นมาจากการเข้าซื้อกิจการ โครงการปรับปรุงกำลังการผลิต การเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้กำลังการผลิตและการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (high value-added) หรือ HVA

“ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และผลิตภัณฑ์ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในทุกภูมิภาค บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดที่เรามีการดำเนินธุรกิจ...เรายังคงขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผน ในขณะเดียวกันรักษาวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค"

ในงวด 9 เดือนปี 57 ธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (high value-added) หรือ HVA คิดเป็นสัดส่วน 21% ของปริมาณการผลิตรวม 33% ของรายได้และ 40% ของ Core EBITDA ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างรวดเร็ว การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐและดอกเบี้ยที่ลดต่ำลง ส่งผลทางบวกต่อธุรกิจโดยรวม

นายอาลก กล่าวอีกว่า ในอนาคตราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง จะส่งผลทางบวกต่อปริมาณความต้องการในผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่มีความจำเป็น (PET และเส้นใยเส้นด้าย) และช่วยเพิ่มกำไรให้กลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้บริษัทได้รับผลบวกต่อต้นทุนโดยรวมของบริษัทฯ จากการอ่อนตัวลงของค่าเงินยูโร เปโซเม็กซิกัน ลีราตุรกีและรูเปีย อินโดนีเซีย

IVL มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและสามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบได้ดี เห็นได้จากกำไรจากสินค้าคงเหลือ 80 ล้านบาทในไตรมาส 3/57 ซึ่งบริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ 63.6 พันล้านบาท และมี Core EBITDA เพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนและมีกำไรหลักสุทธิเพิ่มขึ้น 41% อยู่ที่ 795 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน

การเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และกระแสเงินสดเข้าจากเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ลดต่ำลง (ซึ่งลดลงในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบ) ประกอบกับความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้กระแสเงินสดเข้าจากการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 57 อยู่ที่ 19.1 พันล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 127% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 56

บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินการดำเนินงานสุทธิต่อทุนลดลงเป็น 1.25 เท่า ณ วันที่ 30 ก.ย.57 จาก 1.31 เท่าเมื่อช่วงต้นปี และจากความสำเร็จที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนเมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค.ทำให้มีอัตราส่วนหนี้สินการดำเนินงานสุทธิต่อทุนเป็น 0.81 เท่า (ตัวเลขที่ประมาณคำนวณโดยตั้งสมมติฐานจากผลการดำเนินงานเดือนกันยายน) บริษัทประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนครั้งใหญ่ที่สุดของไทยวงเงิน 15,000 ล้านบาท และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริส เรทติ้งอยู่ที่ระดับ A+ ในเดือน ต.ค.57


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ