บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์(NCL) มีมูลค่าที่เหมาะสมราว 1.7-2.2 บาท อ้างอิงจากคู่แข่งที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกันใน mai คือ KIAT ซึ่งซื้อขายที่ PER ราว 19 เท่า และPBV 2.5 เท่า โดยมองว่าธุรกิจการขนส่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงแม้ว่าจะมีการเปิด AEC เป็นปัจจัยบวกก็ตามแต่ด้วยอัตรากำไรสุทธิที่ค่อนข้างต่ำ (ราว 3%) จึงมองการขยายตัวของผลประกอบการในอนาคตไม่มากนัก
NCL ประกอบธุรกิจบริการขนส่งทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยรายได้หลักมาจากการให้บริการขนส่งทางเรือราว 80% โดยแบ่งเป็นขนส่งแบบเต็มตู้ และ ไม่เต็มตู้ โดยบริษัทจะให้บริการขนส่งมายังท่าเรือและจัดหาระวางเรือให้โดยไม่มีเรือเป็นของตัวเอง สำหรับการขนส่งในประเทศบริษัทมีรถบรรทุกหัวลาก 50 คันและมีหางรถ 98 หางสำหรับวางตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีจุดบริการอยู่ที่สุราษฎร์ธานี และ ท่าเรือแหลมฉบังพร้อมทั้งมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่งที่สงขลา และ อุดรธานี
บริษัทมีแผนในการเปิดจุดบริการขนส่งเพิ่มขึ้นอีก 2 จุดภายในปี 2558 ได้แก่ 1) จุดให้บริการสงขลา เพื่อให้บริการขนส่งระหว่างปีนังและท่าเรือแหลมฉบัง 2) จุดให้บริการจังหวัดอุดรธานี เพื่อให้บริการท่าเรือแหลมฉบังและจังหวัดอุดรธานี พร้อมทั้งเพิ่มการให้บริการรถบรรทุกหัวลาก 50-80 คัน และ รถบรรทุกส่วนหางลาก 50-100 หาง