(เพิ่มเติม) IVL คาดปี 58 รายได้โต 18% มาที่ราว 3 แสนลบ.ตั้งงบลงทุน 2 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 11, 2014 12:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL)คาดว่ารายได้ในปี 58 จะเติบโตราว 18% มาที่ 3 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่น่าจะทำรายได้ราว 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการเติบโตของความต้องการใช้ในตลาดโลก และกำลังการผลิตของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเงินลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิต และการซื้อกิจการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อลงทุนผลิตพาราไซลีนในตะวันออกกลาง และผลิตเอทิลีนในสหรัฐคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในช่วงปี 61-62

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม IVL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าจะเติบโตเป็น 3 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงในปีหน้าส่งผลบวกต่อปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่มีความจำเป็น เช่น PET และเส้นใยเส้นด้าย รวมทั้งจะช่วยเพิ่มกำไรให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม(HVA)

นอกจากนั้น ยังเกิดผลดีต่อต้นทุนโดยรวมของบริษัทฯ จากการอ่อนตัวลงของค่าเงินยูโร ค่าเงินเปโซเม็กซิกัน ค่าเงินลีราตุรกี และรูเปียอินโดนีเซีย รวมถึงจากการที่ปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงจากการเกิดอุบัติเหตุของแหล่งผลิตน้ำมัน BP ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นด้วย

บริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับปี 58 ไว้ 2 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการ(M&A) 2 โครงการ ทั้งโครงการที่ยังไม่เคยทำมาก่อน และโครงการที่เป็นลักษณะเดียวกันกับธุรกิจที่ทำอยู่ คาดว่าจะมีข้อสรุปปลายปีนี้ 1 โครงการ และอีก 1 โครงการน่าจะเห็นช่วงต้นปี 58 รวมถึงจะนำเงินไปใช้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 7.5 ล้านตันทั้งในโรงงานที่มีอยู่ปัจจุบันและโรงงานใหม่ที่อินโดนีเซีย จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 6.5 ล้านตัน

นายอาลก กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมลงทุนในโครงการผลิตพาราไซลีน มูลค่าโครงการ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัทในรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย IVL ถือหุ้นในสัดส่วน 50% คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 1.4 ล้านตัน เริ่มเดินเครื่องได้ในปี 61 และโครงการผลิตเอทิลีนที่ประเทศสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา มูลค่าโครงการรวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 49% กำลังการผลิต 1.5 ล้านตัน คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในปี 62


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ