นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม IVL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าจะเติบโตเป็น 3 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงในปีหน้าส่งผลบวกต่อปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่มีความจำเป็น เช่น PET และเส้นใยเส้นด้าย รวมทั้งจะช่วยเพิ่มกำไรให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม(HVA)
นอกจากนั้น ยังเกิดผลดีต่อต้นทุนโดยรวมของบริษัทฯ จากการอ่อนตัวลงของค่าเงินยูโร ค่าเงินเปโซเม็กซิกัน ค่าเงินลีราตุรกี และรูเปียอินโดนีเซีย รวมถึงจากการที่ปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงจากการเกิดอุบัติเหตุของแหล่งผลิตน้ำมัน BP ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นด้วย
บริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับปี 58 ไว้ 2 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการ(M&A) 2 โครงการ ทั้งโครงการที่ยังไม่เคยทำมาก่อน และโครงการที่เป็นลักษณะเดียวกันกับธุรกิจที่ทำอยู่ คาดว่าจะมีข้อสรุปปลายปีนี้ 1 โครงการ และอีก 1 โครงการน่าจะเห็นช่วงต้นปี 58 รวมถึงจะนำเงินไปใช้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 7.5 ล้านตันทั้งในโรงงานที่มีอยู่ปัจจุบันและโรงงานใหม่ที่อินโดนีเซีย จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 6.5 ล้านตัน
นายอาลก กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมลงทุนในโครงการผลิตพาราไซลีน มูลค่าโครงการ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัทในรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย IVL ถือหุ้นในสัดส่วน 50% คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 1.4 ล้านตัน เริ่มเดินเครื่องได้ในปี 61 และโครงการผลิตเอทิลีนที่ประเทศสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา มูลค่าโครงการรวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 49% กำลังการผลิต 1.5 ล้านตัน คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในปี 62