ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรง และรายงานการตรวจสอบของ บล.เคทีบี กรณีบุคคลภายนอกร้องเรียนผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนรายนางสาวปนัดดา พร้อมทั้งตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้ร้องเรียนถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของ บล.เคทีบี เพื่อชำระค่าซื้อขายหลักทรัพย์คงค้างและเพื่อเป็นหลักประกันในบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้ารายหนึ่งของ บล.เคทีบี ซึ่งนางสาวปนัดดาเป็นผู้ดูแลบัญชี และมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับลูกค้ารายดังกล่าว โดยนางสาวปนัดดาเคยใช้ PIN ของลูกค้ารายนี้ สอบถามยอดเงินโอนในบัญชีธนาคารของลูกค้าด้วย
นอกจากนี้ นางสาวปนัดดาได้ใช้สมุดบัญชีเงินฝากของตนเองที่เปลี่ยนแปลงให้ลูกค้ารายดังกล่าวเป็นเจ้าของบัญชี เพื่อขออนุมัติเพิ่มวงเงินซื้อขายหลังจากที่มีการซื้อขายเพียง 5 วัน รวมถึงไม่พบที่มาของคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์หลายรายการ เป็นเวลานานและมีปริมาณสูง ซึ่งลูกค้าไม่เคยโต้แย้ง ทั้งนี้ การส่งคำสั่งซื้อขายในบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าทางอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ส่งผ่าน IP Address ของ บล. เคทีบี
นางสาวปนัดดา ยังยอมรับด้วยว่า ได้ดูแลบัญชีของลูกค้าอีกรายหนึ่งแต่เพียงในนาม โดยถอนเงินค่าตอบแทนที่ได้จากการซื้อขายในบัญชีของลูกค้าให้แก่นางสาวบุญญาพรเป็นเงินสดทุกเดือน รวมทั้งได้มอบสมุดบัญชีเงินฝากส่วนตัวให้นางสาวบุญญาพรแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของบัญชีเป็นชื่อของลูกค้ารายดังกล่าวด้วย ในส่วนของใบคำขอเปิดบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้ารายนี้ แสดงว่านางสาวปนัดดาลงลายมือชื่อไว้โดยมีข้อความระบุว่า ลูกค้าได้ลงนามในเอกสารการเปิดบัญชีหลักทรัพย์ต่อหน้าผู้แนะนำการลงทุน แต่ในความเป็นจริงนางสาวบุญญาพรยอมรับว่าเป็นผู้เปิดบัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าวด้วยตนเองโดยใช้ชื่อของเพื่อนและลงลายมือเป็นลูกค้ารายนี้เอง
สำหรับกรณีนางสาวบุญญาพร ซึ่ง ก.ล.ต. ให้ บล. เคทีบี ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากกรณีนางสาวปนัดดานั้น นางสาวบุญญาพรยอมรับว่าร่วมกับนางสาวปนัดดาแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของบัญชีเพื่อยื่นขออนุมัติวงเงินซื้อขายเพิ่มตามที่นางสาวปนัดดาอ้างจริง และยอมรับว่าได้เปิดบัญชีหลักทรัพย์โดยใช้ชื่อเพื่อนและกรอกข้อมูลพร้อมทั้งลงลายมือชื่อเป็นลูกค้าคนดังกล่าวเองโดยมีนางสาวปนัดดาเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่ดูแลบัญชีดังกล่าว แต่นางสาวบุญญาพรเป็นผู้ซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีดังกล่าวผ่านอินเตอร์เน็ต ด้วย IP Address ของ บล.เคทีบี เป็นเวลานาน ด้วยเงินของนางสาวบุญญาพรตั้งแต่เปิดบัญชี
การกระทำดังกล่าวข้างต้นทั้ง (1) การใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง (2) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากและยื่นต่อบริษัทหลักทรัพย์เพื่อขออนุมัติวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่ม (3) การเปิดบัญชีหลักทรัพย์โดยใช้ชื่อและลงลายมือชื่อของบุคคลอื่น และใช้บัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าวซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง (4) การสนับสนุนบุคคลใดบุคคลหนึ่งในการเปิดบัญชีหลักทรัพย์ในชื่อของบุคคลอื่นเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบุคคลนั้น ล้วนเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศเกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน* ดังนั้น ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนรายนางสาวปนัดดาเป็นเวลา 10 ปี และผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์รายนางสาวบุญญาพรเป็นเวลา 4 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2557