ทั้งนี้ เชื่อว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ VPO จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งจากการมีกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบขนาดใหญ่ถึง 180 ตันปาล์มทะลายต่อชั่วโมง ซึ่งจัดเป็นผู้ผลิตที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ทำให้บริษัทเป็นเพียงผู้ผลิตไม่กี่รายที่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังต่างประเทศได้ด้วยตนเอง และบริษัทยังใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ช่วยลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต และทำให้น้ำมันปาล์มดิบของบริษัทมีคุณภาพดีเทียบเท่ามาตรฐาน โลก รวมทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบของไทยจะได้รับผลดีจากการ เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58
VPO เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 236 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท คิดเป็น 25.11% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แบ่งเป็น การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 140 ล้านหุ้น และจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 96 ล้านหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 แห่ง ได้แก่ บล.กสิกรไทย บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) และ บล.เอเซีย พลัส
บริษัทได้นำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Road show) ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย.และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจการเกษตร ในวันที่ 24 พ.ย.57 ใช้ชื่อย่อ “VPO"