นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี PTTEP หรือ ปตท.สผ.กล่าวว่า บริษัทคงเป้าหมายปริมาณการขายปิโตรเลียมปีนี้เติบโต 8% โดยมีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/57 และมองว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเมื่อเทียบกับทุกๆไตรมาสที่ผ่านมา หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น
ขณะที่ในปี 58 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมเติบโต 10% จากปีนี้ โดยมีผลผลิตจากแหล่งซอติก้าในประเทศพม่า และแหล่งเบอร์ซาบาของประเทศแอลจีเรียเพิ่มเข้ามา ก็จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี
บริษัทคาดว่า EBIDA margin ในปี 58 จะปรับตัวลดลงจากปีนี้จะยังคงรักษาระดับไว้ที่ 70% โดยจะเป็นไปตามราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงไปที่ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ลดลงไปด้วย ซึ่งคาดว่าราคาขายปิโตรเลียมของบริษัทฯจะอยู่ในระดับเฉลี่ย 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีนี้มีอยู่ที่ 66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นอกจากนั้น บริษัทได้ทบทวนแผนการลงทุนในปีหน้า โดยชะลอการลงทุนโครงการที่ยังไม่จำเป็นออกไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังมีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการใหม่(M&A) เน้นในแถบอาเซียน และใช้เพื่อการลงทุนที่ให้ผลผลิตเทียบเท่ากันกับปีนี้ รวมถึงยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ด้วย ปัจจุบันบริษัทฯมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีศักยภาพที่จะกู้เพิ่มได้อีก 2,000-3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ 0.3 เท่า
สำหรับการลงทุนในโครงการออยล์แซนด์ ที่ประเทศแคนนาดา ยังคงมีการสำรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินศักยภาพของน้ำมัน และหาผลตอบแทนที่คุ้มค่าของการลงทุน แต่ไม่เร่งรีบที่จะลงทุนในเร็วๆนี้
"เรายังคงดูแผนงานเหล่านี้ที่เราลงทุนไปอยู่ แต่จะมีการพัฒนาไปอีกขั้น ก็ต้องดูเรื่องของผลตอบแทนการลงทุน และราคาน้ำมัน ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการบริหารจัดการของเงินที่เรามีอยู่ด้วย"นางสาวเพ็ญจันทร์ กล่าว