นพ.ชาตรี ดวงเนตร กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ-การแพทย์ BGH เปิดเผยว่า กำไรในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่ 6.26 พันล้านบาท เนื่องจาก EBITDA margin ดีขึ้นเป็นผลจากทีมบริหารดูแลค่าใช้จ่ายได้ดีมาก ทำให้อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น ขณะที่รายได้รวมคาดว่าจะเติบโตได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 12% เล็กน้อย เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง โดยปี 56 มีรายได้รวมที่ 5.23 หมื่นล้านบาท
"รายได้รวมปีนี้คาดต่ำกว่าเป้าที่จะโต 12% จากปีก่อน การเติบโตเฉียดฉิวใกล้ๆ เป้าหรือต่ำมานิดหนึ่ง เพราะมีปัญหาการเมือง แต่มาร์จินดีกว่าเดิม เพราะเราจัดระเบียบได้ดีมาก ทั้ง EBITDA margin และ Net margin ด้วย EBITDA ที่ดีขึ้นเพราะการบริหารค่าใช้จ่ายบริหารดูแลได้ดีมาก ทำให้กำไรปีนี้ดีขึ้นแน่นอน ส่วน growth ปี 58 ต้องรอประเมิน เพราะยังมีความไม่แน่นอน ถ้าเป็นผู้บริหารที่ดีต้องไม่ไว้ใจอะไร"นพ.ชาตรี กล่าว
สำหรับแผนการขยายโรงพยาบาลของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพยังคงเป็นไปตามแผน คือ สิ้นปีนี้จะมีโรงพยาบาลครบ 44 แห่ง และสิ้นไตรมาส 1/58 เพิ่มเป็น 50 แห่ง โดยจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีมีแผนจะเปิดโรงพยาบาลอีก 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโล รังสิต, โรงพยาบาลกรุงเทพจอมเทียน, โรงพยาบาลศรีระยอง, โรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี, โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และ โรงพยาบาลกรุงเทพเพชรฯ ส่วนอีก 6 แห่งที่จะเปิดในปีหน้ามองทำเลทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดโรงพยาบาลในประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับไทย เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยสัปดาห์หน้าจะเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา จากเดิมมี 2 แห่ง ซึ่งเป็นการยุบโรงพยาบาลขนาดเล็กของเดิมเข้ามารวมด้วย และศึกษาที่พม่าและลาว ซึ่งบริษัทมีความพร้อมอยู่แล้ว หากการเจรจากับพันธมิตรและกฎระเบียบของทางการเหมาะสมก็ดำเนินการทันที รวมทั้งเตรียมแผนเปิดโรงพยาบาลในพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนหลังจากปี 61 ด้วย
"ในพม่ารอเจรจากับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นการร่วมทุนกับแพทย์ แรกๆ เราต้องไปกับพาร์ทเนอร์ก่อน หลังจากนั้นจะไปดำเนินการด้วยตัวเอง ส่วนที่จีนตอนใต้ก็อยู่ระหว่างศึกษาแต่คาดจะได้เห็นหลังปี 61 เพราะต้องรอให้การเปิดโรงพยาบาลในอาเซียนสำเร็จก่อน...เมื่อเรามีรพ.ในเครือครบ 50 แห่งปี 58 เราจะเป็นรพ.ใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก จากปัจจุบันอันดับ 5 โดยปัจจุบันมีจำนวนเตียง 6,500 เตียง สิ้นไตรมาส 1/58 จะมี 7,000 เตียง"น.พ.ชาตรี กล่าว
สำหรับนโยบายการขยายโรงพยาบาลมีทั้งสร้างเอง ซื้อกิจการ และร่วมทุน หากทำเลที่เราจะไปมีโรงพยาบาลเดิมอยู่แล้วก็จะเข้าไปเจรจาร่วมทุนก่อน หากไม่สำเร็จก็จะลงทุนสร้างเอง จากนี้ไปเราจะขยายโรงพยาบาลขนาดกลางมากขึ้นเพื่อเน้นการดูแลคนไข้ที่เป็นคนไทย จากปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลระดับบน 40% ระดับกลาง 40% เพราะโรงพยาบาลระดับบนส่วนใหญ่เน้นการดูแลคนไข้ต่างประเทศ
"การเปิดรพ.ในอาเซียนเรามีความพร้อมมา 2 ปีแล้ว ถ้าโอกาสมาถึงก็ไปได้ทันที ซึ่งเราเตรียมบุคลากรทางการแพทย์มา 3 ปีแล้ว ปัจจุบันมีแพทย์ 9000 ราย ที่เป็น full time ราว 3000 ราย และมีพยาบาลในเครือกว่า 8000 คน ทุกอย่างพร้อม"นพ.ชาตรี กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 58 บริษัทตั้งงบลงทุนรวมไว้ราว 10% ของเป้ารายได้รวม โดยแบ่ง 5% ใช้ลงทุนปกติ และอีก 5% ไว้ซื้อกิจการใหม่
ล่าสุด มีการเปิดให้บริการของโรงพยบาลกรุงเทพไชน่าทาวน์ ที่ใช้งบประมาณลงทุนกว่า 800 ล้านบาท เป้าหมายให้บริการแก่ประชาชนเขตสัมพันธวงศ์ รวมถึงชาวจีนที่เข้ามาทำงานในไทย และนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน คาดว่าปี 58 กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจะมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น