โครงการโรงไฟฟ้า Shanxi Lu Guang เป็นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ขนาด 1,200 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในมณฑลซานซี สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Ultra-super critical ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยใช้เชื้อเพลิงถ่านหินน้อยลง แต่มีประสิทธิภาพหม้อไอน้ำและความร้อนสูง อีกทั้งยังช่วยลดมลภาวะ ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าแห่งนี้ซึ่งได้รับการอนุมัติเบื้องต้นจากหน่วยงาน Shanxi Provincial Development and Reform Commission ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา รายละเอียดบางประการของโครงการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าปากเหมืองในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ตามกำหนด จะเริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากหน่วยผลิตแรกประมาณกลางปี 2558 ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีหน่วยผลิตทั้งหมด 3 หน่วย มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,878 เมกะวัตต์ และมีปริมาณการผลิตที่จำหน่ายได้รวมทั้งสิ้น 1,653 เมกะวัตต์
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/57 บริษัทมีกำไรจากผลการดำเนินงานสะท้อนถึงการผลิตและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในสภาวะที่ราคาตลาดถ่านหินไม่เอื้ออำนวยนัก อย่างไรก็ตาม กำไรในส่วนที่ไม่ได้เกิดจากผลประกอบการได้รับผลกระทบทางบัญชีจากการประกาศยกเลิกภาษีสินแร่ MRRT (Mineral Resource Rent Tax: MRRT) โดยรัฐบาลออสเตรเลีย ส่งผลให้ในไตรมาสนี้มีการกลับรายการภาษีจำนวน 24 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 778 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดแต่อย่างใด
บริษัทมีรายได้จากการขายรวมจำนวน 852 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 27,345 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 43 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,869 ล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 816 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26,190 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 96 ของรายได้จากการขายรวม สำหรับรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำและอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 4 ของรายได้รวม หรือเป็นจำนวน 36 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,155 ล้านบาท) ในไตรมาส 3/2557 บ้านปูฯ มีปริมาณขายถ่านหินจำนวน 12.42 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายถ่านหินของเหมืองในออสเตรเลีย 1.46 ล้านตัน และเหมืองในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 0.23 ล้านตัน
"การดำเนินธุรกิจถ่านหินของบ้านปูฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีทั้งจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และจีน โดยมีปริมาณการขายถ่านหินที่สูงขึ้นจากแหล่งผลิตทั้งในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ผนวกกับการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพที่เหมืองเกาเหอในสาธารณรัฐประชาชนจีน ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้านั้น โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีในประเทศไทย รายงานส่วนแบ่งกำไรจำนวน 17 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 546 ล้านบาท) ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าในสาธารณรัฐประชาชนจีนรายงานกำไรสุทธิในระดับที่ดีต่อเนื่องจำนวน 3.15 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 101 ล้านบาท)"นายชนินท์กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซีย มีปริมาณขายถ่านหินที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสก่อนหน้า หรือคิดเป็นจำนวน 7.74 ล้านตันสำหรับไตรมาส 3/2557 โดยปริมาณขายจากทุกแหล่งปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะที่เหมืองอินโดมินโคและเหมืองทรูบาอินโด ซึ่งรายงานปริมาณขายจำนวน 4.07 ล้านตัน และ 1.81 ล้านตัน ตามลำดับ
ขณะที่ธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลีย บ้านปูฯ เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ย ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการขายและบริหารสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ โดยผลิตและจัดส่งถ่านหินที่มีคุณภาพที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้า ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของเหมืองแมนดาลองและเหมืองแองกัส เพลส ได้รายงานปริมาณการผลิตที่ปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2557 โดยคิดเป็นปริมาณการผลิต 2.1 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 72 จากเหมืองแมนดาลอง และ 1.2 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 92 จากเหมืองแองกัส เพลส
นอกจากนี้ ธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลียยังได้รายงานปริมาณขายที่ปรับเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยมีปัจจัยบวกมาจากปริมาณการขายและราคาถ่านหินที่จำหน่ายในประเทศซึ่งช่วยลดผลกระทบจากราคาขายถ่านหินที่ลดลงของตลาดส่งออก